นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังนายสตัฟฟาน แฮร์สเตริม เอกอัครราชทูตสวีเดนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะเพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ซึ่งตนได้เชิญนักลงทุนสวีเดนมาลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และขอให้ช่วยส่งเสริมสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ผัก ผลไม้ เข้าสู่ตลาดสวีเดนและกลุ่มนอร์ดิก และช่วยอำนวยความสะดวก ในการตรวจสอบคุณภาพสินค้าของไทย พร้อมเชิญชวนภาคเอกชนสวีเดน เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการค้าออนไลน์
“ทูตสวีเดนแจ้งว่า พร้อมสนับสนุนการฟื้นการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจระหว่างสองภูมิภาค และขอให้ไทยพิจารณาเปิดให้นักธุรกิจสวีเดนเดินทางเข้ามาในไทยได้โดยเร็วด้วย ผมยังได้ชี้แจงเรื่องอุตสาหกรรมกะทิว่า ไทยมีระบบการตรวจสอบที่มาของวัตถุดิบที่มีมาตรฐาน และเชิญผู้แทนทูตสวีเดนเข้าร่วมกับคณะทูต ลงพื้นที่ดูการเก็บเกี่ยวมะพร้าวเชิงอุตสาหกรรม และระบบตรวจสอบย้อนกลับของผู้ผลิตและส่งออกของไทยภายหลังจากองค์กรประชาชนเพื่อการปฏิบัติต่อสัตว์อย่างมีจริยธรรม (พีตา) กล่าวหาว่า ไทยทารุณสัตว์ เพราะใช้ลิงเก็บมะพร้าว”
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า กรมฯได้แพร่ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เรื่อง จะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทออกจากทะเบียนจำนวน 12,629 ราย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯเนื่องจากไม่ส่งงบการเงินติดต่อกัน 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2559-2561 ซึ่งเป็นเหตุให้เชื่อว่ามิได้ทำการค้าขายหรือดำเนินธุรกิจแล้ว 9,393 ราย ที่เหลืออีก 3,236 รายได้จดทะเบียนเลิกแล้ว แต่ไม่มีตัวผู้ชำระบัญชีทำการอยู่ ฯลฯ นับแต่เลิกห้างหุ้นส่วนบริษัท สำหรับนิติบุคคลในต่างจังหวัด ได้ให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดช่วยตรวจสอบ เพื่อขีดชื่อออกจากทะเบียนเช่นกัน.