“สังคมเปราะบาง”

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

“สังคมเปราะบาง”

Date Time: 4 ก.ค. 2563 05:01 น.

Summary

  • ต้องยอมรับครับว่า ถึงวันนี้ โลกทั้งโลกไม่มีวันจะหวนกลับไปเป็นแบบเดิมได้อีกแล้ว คนทั่วโลกกำลังตื่นเต้นกับคำว่า New Normal หรือ ชีวิตวิถีใหม่

Latest

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ย้ำชัด ไทยไม่ลด "ดอกเบี้ย" ตามเฟด ชี้ "บาทแข็งค่า" ไม่ทุบทิศทางส่งออกไทย


ต้องยอมรับครับว่า ถึงวันนี้ โลกทั้งโลกไม่มีวันจะหวนกลับไปเป็นแบบเดิมได้อีกแล้ว คนทั่วโลกกำลังตื่นเต้นกับคำว่า New Normal หรือ ชีวิตวิถีใหม่

แต่สำหรับผม นิวนอร์มอล ไม่น่าตกใจเท่ากับ Next Normal ครับ...

เราจะก้าวต่อไปอย่างไรในอนาคต ภายใต้โลกและสังคมที่ถูกบีบอัด ผมใช้คำว่า บีบอัด นะครับ ไม่ใช่ บีบรัด ความหมายโดยนัยก็คือ มันรุนแรงกว่ากัน และยากที่จะหาทางออกครับ

วันก่อน ผมเห็นรายงานของศูนย์วิจัยธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ออกมาบอกว่า 59% ของครัวเรือนในประเทศไทย หรือประมาณ 1 ล้าน 2 แสนครัวเรือน มีทรัพย์สินน้อยกว่ารายจ่าย 3 เดือน

พูดง่ายๆก็คือ ถ้าวันนี้ไม่มีรายได้ ก็ไม่มีกินแน่นอน ถึงจะได้เงินจากรัฐบาลมาเยียวยา เดือนละ 5,000 ก็ตาม

ผู้ใหญ่ในแวดวงเศรษฐกิจคนหนึ่ง บอกกับผมว่า คนไทยค่อนประเทศ อาจจะมากกว่า 80% ที่มีเงินฝากในธนาคารไม่ถึง 1 แสนบาท

สมัยก่อนอาการแบบนี้ เราเรียกว่า มีชีวิตอยู่บนเส้นด้าย...ไม่รู้ว่าจะขาดลงวันไหน แต่ภาษาวิชาการ เขาเรียกลักษณะความไม่มั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจแบบนี้ ว่า...สังคมเปราะบาง ครับ

ขณะที่รัฐบาลพูดถึงสวัสดิการ ความช่วยเหลือ การเยียวยา...แต่คนหาเช้ากินค่ำ โดยเฉพาะในเขตเมืองอย่างกรุงเทพฯ ผมว่าไม่น่าต่ำกว่า 1 ล้านคน ไม่ว่าจะเป็น มอเตอร์ไซค์รับจ้าง แม่บ้าน รปภ. กำลังมีชีวิตอยู่บนความไม่แน่นอน

ไม่รู้ว่าบริษัทจะเลิกจ้างวันไหน เลิกจ้างแล้ว จะไปทำมาหากินอะไร...เพราะแค่จะให้รอด พอเลี้ยงปาก เลี้ยงท้อง ที่อย่างน้อย 2-3 ชีวิตในครอบครัวไปวันวันหนึ่งยังแทบกระอัก

ผมคิดว่า เรามาถึงจุดที่ต้องถักทอความเปราะบางให้แข็งแรงครับ

ไม่ใช่ให้ยาหอม หรือยาบรรเทาอาการไปวันต่อวัน

เพราะคนป่วยมะเร็ง เป็นเอดส์ เส้นเลือดในสมองแตก...ให้ยาแค่นี้ ไม่ประสาอะไรได้เลยครับ

หลังจากนี้ จะมีคนตกงานมากขึ้นเรื่อยๆ จะบอกว่ามีช่องทางออนไลน์ให้ค้าขายกันได้ ถ้าออกมาขายของกันหมด ใครจะเป็นคนซื้อครับ

เด็กบางคนอาจต้องออกจากระบบโรงเรียน เพราะพ่อแม่ไม่มีกำลังส่งบ้าน หรือคอนโดจะถูกธนาคารยึด เอสเอ็มอีที่เคยเป็นเส้นเลือดฝอยของระบบเศรษฐกิจ ส่อแววจะพังอีกระลอกใหญ่

ผมว่า สถานการณ์หลังจากนี้ ยิ่งกว่าสึนามิ...ถ้าไม่หาทางแก้ไขปัญหาเชิงระบบรองรับ เราอาจเห็นคนไร้บ้าน คนเป็นโจร ออกมาปล้นสะดม พังร้านสะดวกซื้อเพื่อแย่งอาหาร เงินเฟ้อแบบ 300% เหมือนที่เกิดในบางประเทศ ที่รัฐบาลล้มละลายจากการคอร์รัปชันและมีปัญหาเชิงบริหาร

ตัวอย่างเคยมีมาแล้ว ศึกษาแล้วหาทางป้องกัน ประเทศไทยเราจะไปรอดครับ.

Aroon


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ