ตกผลึกแล้ว "เราเที่ยวด้วยกัน" ประชาชนลงทะเบียน 15 ก.ค.

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ตกผลึกแล้ว "เราเที่ยวด้วยกัน" ประชาชนลงทะเบียน 15 ก.ค.

Date Time: 1 ก.ค. 2563 13:00 น.

Summary

  • เปลี่ยนชื่อใหม่ ครม.ไฟเขียวผู้ประกอบการลงทะเบียนโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” วันที่ 1 ก.ค.นี้ ก่อนให้ประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิ์ 15 ก.ค. เพื่อรับสิทธิ์ลดค่าที่พัก ลดค่าตั๋วเครื่องบิน

Latest

“พิชัย” เปิดเวทีชวนนักลงทุนเข้าไทย

เปลี่ยนชื่อใหม่ ครม.ไฟเขียวผู้ประกอบการลงทะเบียนโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” วันที่ 1 ก.ค.นี้ ก่อนให้ประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิ์ 15 ก.ค. เพื่อรับสิทธิ์ลดค่าที่พัก ลดค่าตั๋วเครื่องบิน แถมเงินให้กินและเที่ยววันละ 600 บาท ในลักษณะร่วมจ่ายกับรัฐ ยกเลิกสนับสนุนรถเช่า รถโดยสารไม่ประจำทาง

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งเป็นการปรับปรุงโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านการเห็นชอบในหลักการจาก ครม.เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนไปแล้ว โดยใช้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 400,000 ล้านบาท จำนวน 22,400 ล้านบาท มีระยะเวลาทำโครงการ 4 เดือน ตั้งแต่ 1 ก.ค.-31 ต.ค.63 ซึ่งโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เป็นการเปลี่ยนชื่อใหม่จากการรวมโครงการ “เราไปเที่ยวกัน” และ “เที่ยวปันสุข” ให้อยู่ในโครงการเดียว มี 3 รายการย่อย คือ รัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายโรงแรมที่พัก จำนวน 5 ล้านคืน รัฐช่วยจ่าย 40% ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน และสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 2 ล้านใบ โดยผู้จองที่พักมีสิทธิ์ได้รับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารในลักษณะการจ่ายเงินคืนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง 40% แต่ไม่เกิน 1,000 บาทต่อที่นั่ง และจองที่พัก 1 ห้องจะได้รับสิทธิบัตรโดยสารไม่เกิน 2 ใบ ส่วนรถเช่าและรถโดยสารไม่ประจำทางยกเลิกการสนับสนุนเนื่องจากตรวจสอบการเดินทางข้ามจังหวัดไม่ได้

พร้อมกันนี้ได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายร้านอาหารและแหล่งท่องเที่ยว 5 ล้านสิทธิ์ โดยดำเนินโครงการในรูปแบบร่วมจ่าย (Co-pay) โดยประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะสามารถชำระค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง โดยระบบจะหักเงินในส่วนที่รัฐสนับสนุน 40% ไม่เกิน 600 บาทต่อวัน พร้อมกับเชื่อมไปยังกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในแอปพลิเคชันเป๋าตังของประชาชนเพื่อชำระค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวในส่วนที่เหลือ 60% “โครงการนี้จะเปิดให้ผู้ประกอบการโรงแรม รวมโฮมสเตย์ที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย เริ่มลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ จากนั้นตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. เป็นต้นไป ถึงจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมใช้สิทธิ์ในโครงการฯ ที่ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com

สำหรับผลที่จะได้รับคาดว่า โครงการเราเที่ยวด้วยกัน จะสร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวและสายการบิน เป็นรายได้ทางตรงแก่ผู้ประกอบการรวมไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท และสร้างรายได้สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภาพรวมไม่น้อยกว่า 26,127 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการ ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่น้อยกว่า 726,127 ล้านบาท

ขณะเดียวกันที่ประชุมยังเห็นชอบ โครงการกำลังใจ เป็นการให้เงินค่าใช้จ่ายเดินทางอบรม ดูงานคนละ 2,000 บาท กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 1.2 ล้านคน โดยมีเงื่อนไขต้องซื้อแพ็กเกจทัวร์จากผู้ประกอบธุรกิจในประเทศ โครงการนี้จะสร้างรายได้ทางตรงให้แก่ผู้ประกอบท่องเที่ยว 2,400 ล้านบาท ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจทางอ้อม 6,500 ล้านบาท

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ได้สั่งให้มีการจัดประชุมสัมมนาที่ต่างจังหวัด โดยทุกกระทรวงต้องรายงานผล ซึ่งงบประมาณบางส่วนยังมีอยู่เพื่อส่งเสริมรายได้ของโรงแรม การจัดสรรที่พักต่างๆแต่ก็ต้องมีมาตรการป้องกันโควิด-19 ด้วย และให้ไปดูว่าในวันข้างหน้าจะมีการปรับการท่องเที่ยวในวันธรรมดาได้บ้างหรือไม่ ไม่เช่นนั้นวันเสาร์-อาทิตย์ อย่างที่หัวหิน คนเต็มไปหมด.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "เราเที่ยวด้วยกัน"


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ