นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เผยหลังหารือผู้ประกอบการรถยนต์ สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว (รถมือสอง) ถึงการปรับลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ เพื่อช่วยอุตสาหกรรมรถยนต์ตามข้อเสนอของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกันว่าจะไม่ลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่เหมาะสม และการมีข่าวออกไปทำให้ตลาดรถยนต์หยุดชะงักคนไม่ซื้อเพราะรอนโยบาย ดังนั้นจึงเห็นตรงกันว่าไม่ควรลดภาษี แม้จะลดภาษีตามข้อเสนอ 50% ก็ไม่ได้ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ เนื่องจากภาษีในรถยนต์ถือว่าไม่สูงมาก เช่น รถกระบะเสียภาษี 2,000 บาท รถซิตี้คาร์เสียภาษี 30,000 บาท เป็นต้น ทั้งนี้ยังมีอีก 2 ข้อเสนอที่ต้องหารือกับฝ่ายนโยบาย โดยผู้ประกอบการเตรียมนำเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรี คือ นโยบายรถเก่าแลกรถใหม่ โดยให้ภาครัฐชดเชยราคารถเก่า 100,000 บาท และขอขยายเวลาบังคับใช้มาตรฐานรถยนต์ การปล่อยไอเสียของรถยนต์ยูโร 5 และยูโร 6 จากเดิมกำหนดใช้ปี 65
นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. กล่าวว่า หลังสรรพสามิตไม่ลดภาษีให้ ต้องไปหารือกับไฟแนนซ์ เพื่อให้ลดเงินดาวน์ลงให้เกิดการจูงใจซื้อรถยนต์ ซึ่งขณะนี้ยอดขายลด 50-60% จนถึงสิ้นปีคาดว่ายอดขายเหลือเพียง 500,000 คัน จากที่คาดไว้ 1 ล้านคัน อาจกระทบต่อแรงงานกว่า 700,000 คน แต่ผู้ประกอบการพยายามรักษาแรงงานนี้ไว้ โดยใช้แนวทางอื่น.