เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มี 2 หน่วยงานได้นำเสนอรถเข็นขายอาหารสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย ที่ถูกพัฒนาเป็นรถต้นแบบที่น่าสนใจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยให้ผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดได้ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมและสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้รับประทานอาหารถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสในยุคนี้
เริ่มจากศูนย์บริการปรึกษาการออกแบบและวิศวกรรม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) แนะนำรถเข็นรักษ์โลก ภายใต้โครงการพัฒนา “นวัตกรรมรถเข็นรักษ์โลกเพื่อสตรีทฟู้ด” ซึ่งมี 3 รูปแบบได้เปิดตัวไปแล้วเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยยกระดับมาตรฐานคุณภาพและความสะอาดปลอดภัยของอาหารสตรีทฟู้ด
ดร.อัมพร โพธิ์ใย ผู้อำนวยการศูนย์บริการปรึกษาการออกแบบและวิศวกรรม สวทช. กล่าวว่า ด้วยจุดริเริ่มและคิดค้นหาทางยกระดับสตรีทฟู้ดไทยให้ก้าวไกลขึ้นด้วยการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เข้ามาช่วยยกระดับมาตรฐานทั้งด้านคุณภาพ ความปลอดภัยในการบริโภคอาหาร สุขอนามัย ความสะอาดของร้านและผู้ปรุงอาหาร คุณภาพของการให้บริการ และความอร่อย จึงทำการออกแบบและพัฒนารถเข็นและอุปกรณ์ภายในร้านให้มีความสะอาดปลอดภัย ลดการสร้างมลพิษ หรือขยะของเสีย ลดน้ำหนักรถเข็นให้เบาที่สุด
“สวทช.ได้ส่งมอบรถเข็นนวัตกรรมรักษ์โลกเพื่อสตรีทฟู้ด ซึ่งนับเป็นรถเข็นคัน แรกรูปแบบ 1 ที่น้ำหนักเบาพร้อมระบบน้ำดี ถังบำบัด และซิงก์น้ำ จำนวน 2 คัน ให้แก่ผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการข้าวเหนียวหมูหวาน เฮียวัตรปังตอทอง เพื่อนำไปใช้งานจริงในกิจการ”
นอกจากนี้ ยังมีแผนส่งมอบรถเข็นให้กับผู้ประกอบการรายอื่นๆที่สั่งจองไว้แล้วกว่า 30 คัน ซึ่งมีทั้งโมเดลรูปแบบ 1,2 และ 3 แก่ผู้ประกอบการจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งมีหลากหลายประเภทอาหาร ทั้งอาหารปิ้ง ย่าง ทอด เครื่องดื่ม และอาหารตามสั่ง โดยมีเป้าหมายส่งมอบรถเข็น จำนวนไม่น้อยกว่า 100 คัน ภายในปีนี้และได้มีแผนขยายระยะเวลาเปิดรับสมัครผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดเข้าร่วมโครงการ จนถึงวันที่30 มิ.ย.63
สำหรับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้เปิดตัวนวัตกรรมรถเข็นขายหมูปิ้ง น้ำผลไม้ปั่น ด้วยระบบไฟฟ้าแบบไฮบริด ระบบกรองน้ำดี น้ำเสีย และซิงก์ล้างมือแบบใช้เท้าเหยียบเพื่อลดการสัมผัสตามแนวทางศูนย์บ่มเพาะองค์ความรู้การจัดการมาตรฐานร้านสตรีทฟู้ด (Street Food Academy) ภายใต้โครงการ 60 ปี พระจอมเกล้าลาดกระบัง ไร้ขีดจำกัด
นวัตกรรมรถเข็นดังกล่าวมาพร้อมคำแนะนำการใช้งานอย่างครบวงจร ช่วยให้ผู้ขายสามารถเสิร์ฟความอร่อยอย่างถูกสุขลักษณะ ไปพร้อมกับรักษาสิ่งแวดล้อมบริเวณร้านค้า ได้แก่ 1.จัดเก็บวัตถุดิบอย่างถูกสุขลักษณะ 2.ล้างมือและวัตถุดิบก่อนประกอบอาหาร 3.เตรียมอาหารบนพื้นผิวสัมผัสที่สะอาด 4. ประกอบอาหารตามสูตรเคล็ดลับ และ 5.กรองน้ำเสียก่อนแยกทิ้ง ทั้งนี้ นวัตกรรมรถเข็นขายหมูปิ้ง น้ำผลไม้ปั่น พร้อมเปิดตัวในงาน KMITL Street Food Academy 2020 และเตรียมนำร่องส่งมอบให้แก่ 8 ผู้ขายอาหารริมทางที่ผ่านการคัดเลือก เพื่อนำนวัตกรรมรถเข็นดังกล่าวไปใช้สร้างมูลค่าในการขายสินค้า
ผศ.ดร.นภัสรพี เหลืองสกุล หัวหน้าศูนย์ Food Innopolis สจล. กล่าวว่า การออกแบบของรถเข็นทั้งสองประเภท มีการเลือกใช้วัสดุพื้นผิวสเตนเลส ระดับมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรม มีการเชื่อมต่อโครงสร้างที่ไม่มีรอยตะเข็บ มีการเก็บมุมที่สวยงาม และใช้การเจาะโครงสร้างที่น้อยที่สุด เพื่อความสวยงามของตัวรถเข็น อีกทั้ง นวัตกรรมรถเข็นทั้งสองประเภท ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจร้านอาหารประเภทเดียวกันได้ เช่น รถเข็นหมูปิ้งหรือลูกชิ้น และรถเข็นน้ำผลไม้ปั่นหรือร้านกาแฟ
สำหรับผู้ขายอาหารริมทางหรือสตรีทฟู้ดที่สนใจพัฒนาศักยภาพการเป็นผู้ประกอบการ ทั้งหลักการปรุง คุณประโยชน์ การพัฒนาสูตร และเทคนิคการขาย สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ ขายอย่างไรให้รวยโคตร by KMITL facebook.com/kmitlstreetfoodacademy
นับเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยในยุคชีวิตวิถีใหม่นี้ รสชาติความอร่อยอย่างเดียวขายไม่ได้แล้ว ต้องยกระดับให้มีสุขอนามัย สะอาด ปลอดภัยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย.
วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th