นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี หรือ กพอ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ครั้งที่ 2/63 เมื่อวันที่ 27 เม.ย.63 โดยมีนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เป็นประธานนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก และมีมติให้เร่งนำเสนอเรื่องนี้ต่อคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) โดยเร็วที่สุด ซึ่งโควิด-19 จะไม่กระทบแผนลงทุน คาดว่าแผนงานวางไว้จะแล้วเสร็จในปี 66 “คาดว่าหลังโควิด-19 อุตสาหกรรมการบินจะกลับมาฟื้นตัวได้ 50% ในช่วงครึ่งแรกของปี 64 และในครึ่งหลังจะฟื้นตัวกลับมา 70% ถือว่าช่วงนี้เป็นการเตรียมพร้อมด้านการลงทุนก่อสร้างที่ดี ซึ่งบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ยังยืนยันทำโครงการนี้ และจะหาผู้ร่วมทุนมาดำเนินการ ซึ่งแอร์บัสยืนยันจะร่วมมือในเรื่องเทคโนโลยีแล้ว”
นอกจากนี้ กบอ.ยังเห็นชอบโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ประกอบด้วย 6 กิจกรรม คือ อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3, ศูนย์ธุรกิจการค้าและการขนส่งภาคพื้นดิน, ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน, เขตประกอบการค้าเสรี และเขตธุรกิจเกี่ยวเนื่อง, ศูนย์ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและโลจิสติกส์ และศูนย์ฝึกอบรมการบิน วงเงินลงทุน 290,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐจะได้ประโยชน์เพิ่มเติม คือ ได้ภาษีอากรมากกว่า 60,000 ล้านบาท ไม่นับรวมรายได้ภาษีทางอ้อมกับธุรกิจเชื่อมโยงนอกเมืองการบินภาคตะวันออก และเกิดการจ้างงานเพิ่ม 15,640 ตำแหน่งต่อปี ในระยะ 5 ปีแรก รวมถึงวางยุทธศาสตร์ให้เมืองการบินภาคตะวันออก ต้องทำภารกิจสำคัญ คือ 1.เป็นสนามบินกรุงเทพฯ แห่งที่ 3, เป็นศูนย์กลางการพัฒนาธุรกิจเป้าหมาย โดยเฉพาะศูนย์กลางการท่องเที่ยว โลจิสติกส์ การบิน และเป็นศูนย์กลางของมหานครการบินภาคตะวันออก.