ตลาดนัดหัวเขียว : ศูนย์การค้าสร้างความมั่นใจก่อนเปิดบริการ

แม้ทางภาครัฐยังไม่ได้ประกาศอนุญาตให้ศูนย์การค้ากลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งเมื่อไร แต่เป็นที่ทราบกันว่าได้มีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนของศูนย์โควิดมีการศึกษาและเสนอแนวทางการเปิดละเอียดยิบ

ไม่ว่าจะมีการตัดสินใจให้เปิดเป็นขั้นตอนหรือการแบ่งเป็นโซนนิงที่ไม่พบผู้ป่วยใหม่ก็แล้ว แต่เนื่องจากธุรกิจศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องใช้พนักงานจำนวนมาก จึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมทันทีที่รัฐเปิดไฟเขียว

เป็นการกลับมาในเวอร์ชันของการรีสตาร์ตใหม่หมด รูปแบบของธุรกิจศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าจะไม่เหมือน เดิมอีกต่อไป ตามกระแสของ new normal ซึ่งเป็นความใหม่ที่เกิดขึ้นในภาวะปกติ คือได้เปลี่ยนแปลงไปตามการปรับตัวเพื่อรับมือกับไวรัสโควิดให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุดทั้งพนักงาน คู่ค้ารวมไปถึงผู้บริโภค

เมื่อสองสามวันก่อน เซ็นทรัลพัฒนา หรือซีพีเอ็น ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วประเทศได้ประกาศแผนแม่บทด้านมาตรการความสะอาดและความปลอดภัยขั้นสูงสุด ให้เป็นแนวทางปฏิบัติให้ศูนย์การค้าและร้านค้าทั่วประเทศปฏิบัติตาม

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ทางซีพีเอ็นสนับสนุนนโยบายการ “อยู่บ้าน” ตามมาตรการรัฐ แต่หากผู้บริโภคจำเป็นต้องใช้บริการให้มีความมั่นใจได้เลยว่าจะพบกับความสะอาดและปลอดภัยในมาตรการที่เตรียมไว้

ซึ่งครอบคลุมเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยใน 5 แกนหลัก กว่า 75 มาตรการ ได้แก่

1.การคัดกรองอย่างเข้มงวด วัดอุณหภูมิทุกคนก่อนเข้าศูนย์ฯ และทุกร้านค้า, สวมหน้ากากตลอดเวลา, พนักงานที่บริการใกล้ชิดลูกค้าต้องสวมหน้ากากแบบ Face shield และสวมถุงมือ และมีมาตรการเข้มงวดพิเศษสำหรับพนักงานขนส่งดีลิเวอรี

2.มาตรฐานรักษาระยะห่างทางสังคมหรือ Social Distancing ทุกจุด เช่น จำกัดจำนวนคนเข้าศูนย์การค้าไม่เกิน 1 คน ต่อ 5 ตร.ม. สำหรับร้านค้าและพื้นที่ส่วนกลาง ลิฟต์-บันไดเลื่อน-ห้องน้ำ ต้องรักษาระยะห่าง 1.5-2 ม. ทุกจุด, จัดคิวขณะรอ และมีพื้นที่นั่งคอยสำหรับร้านค้า และพนักงานขนส่งดีลิเวอรี

3.การติดตามเพื่อความปลอดภัย ติดตามข้อมูลสุขภาพ และการเดินทางของพนักงานในศูนย์ฯและร้านค้าย้อนหลัง 14 วัน ก่อนเปิดศูนย์ฯ และทุกวันก่อนเริ่มงาน และสำหรับอาหารที่ซื้อกลับบ้านทุกกล่อง ต้องระบุข้อมูลชื่อร้าน สาขา และเวลา พร้อมชื่อและอุณหภูมิของผู้ประกอบอาหารติดบนกล่องอาหาร

4.การใส่ใจในความสะอาดทุกจุดสัมผัสเช็ดทำความสะอาดทุกจุดสัมผัสทุก 30 นาที ทั้งศูนย์ การค้าและทุกร้านค้า และฆ่าเชื้อหลังปิดศูนย์ฯ พร้อมทำบิ๊กคลีนนิ่งทุกสัปดาห์, บริการฆ่าเชื้อที่ถุงสินค้าก่อนกลับบ้าน, ทำความ สะอาดฆ่าเชื้อบัตรศูนย์อาหาร / บัตรจอดรถทุกใบ

5.แนวทางลดการสัมผัส ส่งเสริมการใช้การชำระเงินแบบ Cashless และ E-payment, บริการถุงใส่เงินทอนที่จุดแคช เชียร์ทุกร้านค้า, จัดพนักงานเปิดปิดประตูศูนย์การค้าและร้านค้า และกดลิฟต์ให้ลูกค้าเพื่อลดการสัมผัส

โดยจะขอความร่วมมือจากพันธมิตรร้านค้าทุกร้านค้าในศูนย์การค้าให้ดำเนินการตามแผนแม่บทร่วมกัน เพื่อฝ่าฟันวิกฤตินี้ไปด้วยกัน

สำหรับผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ทางเซ็นทรัลระบุว่ายินดีให้นำไปปรับใช้เป็นบรรทัด-ฐานให้ธุรกิจในประเทศสร้างความมั่นใจเต็มที่ระหว่างไปใช้บริการ.

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th