เฟดลดดอกเบี้ยฉุกเฉินรับมือโควิด หุ้นไทยดิ่ง "สศค." ชงมาตรการเยียวยาชุด 2

เฟด-บีโอเจ ทำเซอร์ไพรส์ ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินฉุกเฉินรับมือโควิด-19 โดยเฟดลดดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 0% พร้อมอัดคิวอี 7 แสนล้านเหรียญ ด้านบีโอเจอัดเงินซื้อพันธบัตรเพิ่ม 2 ล้านล้านเยน แต่ ธปท.ประชุม กนง.ตามเดิม 25 มี.ค.นี้ ขณะที่หุ้นไทยร่วงหนักต่ออีก 82 จุด ส่วน “สศค.” เตรียมชง ครม.ไฟเขียวมาตรการเยียวยาชุดที่ 2 เดือน มี.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ตามเวลาสหรัฐฯ คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เอฟโอเอ็มซี) ได้จัดประชุมฉุกเฉินนัดพิเศษเป็นครั้งที่ 2 ในเดือนนี้ โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1.00% จาก 1.00-1.25% สู่ระดับ 0.00-0.25% หลังจากประชุมนัดพิเศษครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 มี.ค.63 ได้ลดดอกเบี้ยลงไปแล้ว 0.5% นอกจากนั้น เฟดยังได้ประกาศซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) เพิ่มเติม 700,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบเศรษฐกิจ และลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตาม นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดไม่มีแผนปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจนถึงระดับติดลบในขณะนี้

ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประชุมนัดพิเศษวันที่ 16 มี.ค.63 และมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ -0.1% และใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม โดยปรับเป้าหมายซื้อพันธบัตรเพิ่มอีก 2 ล้านล้านเยน และเพิ่มการปล่อยเงินกู้ใหม่ให้บริษัทเอกชน สำหรับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังยืนยันจะประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ตามเดิมวันที่ 25 มี.ค.63 โดยจะปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยลง จาก 2 ปัจจัยลบ คือ ผลกระทบจากโควิด-19 และภัยแล้ง คาดว่า กนง.จะลดดอกเบี้ยครั้งนี้ 0.25-0.5% และอาจมีมาตรการเพิ่มเติมที่ไม่ใช่นโยบายการเงิน

ส่วนภาวะตลาดหุ้นไทยวันที่ 16 มี.ค.63 กลับมาดิ่งลงรุนแรงต่อเนื่องที่ 82.82 จุด หรือ 7.34% ปิดที่ 1,046.08 จุด โดยยังคงวิตกกังวลโควิด-19 ที่แพร่ระบาดหนัก โดยนายมนชัย มกรานุรักษ์ หัวหน้าสำนักวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ ประเมินว่า การที่เฟดลดดอกเบี้ยนโยบายลง อาจเห็นสัญญาณที่น่ากังวลบางอย่าง ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลงแรงรับข่าว ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็ลงแรงเช่นกัน ดังนั้น การลงทุนแบบระยะสั้นในช่วงนี้จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่เป็นจังหวะดีในการเลือกหุ้นพื้นฐานดี เพื่อลงทุนระยะยาว เพราะประเมินว่าแต่ละประเทศน่าจะควบคุมการแพร่ระบาดได้ในปีนี้ และหุ้นไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแบบ V-Shape ช่วงครึ่งปีหลัง

ส่วนนางสาวรุ่ง สงวนเรือง ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนจะยังผันผวนสูงตามความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาด โดยค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ 31.96 บาทต่อเหรียญ อ่อนค่าจากปิดตลาดเมื่อวันที่ 13 มี.ค.63 จากนั้นอ่อนค่าทะลุ 32.00 บาทต่อเหรียญ ขณะที่นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า สศค.เห็นว่าดอกเบี้ยนโยบายของไทยมีช่องปรับลดลงได้อีก ซึ่งจะมีส่วนช่วยหนุนมาตรการทางการคลังที่ออกไปก่อนหน้า และมาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่จะออกในเร็วๆนี้ ส่วนนโยบายการคลังนั้น จะพิจารณาว่าดูแลเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบได้อย่างไรบ้าง โดยจะช่วยเหลือทุกกลุ่ม แต่จะเน้นกลุ่มได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ เกษตรกร และอาชีพอิสระ ส่วนกลุ่มมนุษย์เงินเดือนจะรองลงมา คาดว่าจะเสนอมาตรการเยียวยาชุดที่ 2 ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือน มี.ค.นี้.