นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ สตาร์ตอัพ (SSI) ประจำไตรมาส 4 ปี 62 ได้สำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้ประกอบการสตาร์ตอัพทั่วประเทศ 500 ตัวอย่าง พบว่าดัชนีเชื่อมั่นผู้ประกอบการ อยู่ที่ระดับ 51.65 สูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 เล็กน้อย แต่ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 51.85 แม้รัฐบาลจะดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายมาตรการ อาทิ มาตรการประกันรายได้เกษตรกรที่เริ่มการจ่ายเงินชดเชยให้เกษตรกรช่วงเดือน พ.ย.62 โครงการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ “ชิม ช้อป ใช้” เป็นต้น นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจของไทยโดยรวมที่ยังซบเซา ส่งผลให้ผู้ บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย โดยเลือกจ่ายเฉพาะสินค้าที่จำเป็น อีกทั้งเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง ยังกระทบต่อการส่งออกและค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้ฤดูกาลท่องเที่ยวของไทยไม่คึกคัก ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการสตาร์ตอัพปรับตัวลดลง
“ดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้า ผู้ประกอบการสตาร์ตอัพส่วนใหญ่ประเมินว่า ธุรกิจในภาพรวมมีโอกาสดีขึ้น สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 59.32 จากการที่หลายประเทศ เริ่มใช้มาตรการการเงินผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจโลกดีขึ้นและส่งผลให้ปริมาณการค้าโลกสูงขึ้น”
นอกจากนี้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 63 ประกาศใช้ต้นไตรมาส 1 ปี 63 จะส่งผลให้มีเม็ดเงินขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม จากสภาพ เศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลต่อกำลังซื้อและการบริโภคภายในประเทศ ครัวเรือนระมัดระวังการใช้จ่ายและลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง รวมถึงการแข่งขันธุรกิจที่สูงขึ้น ล้วนยังคงเป็นปัจจัยบั่นทอนต่อยอดขายสินค้าและบริการของผู้ประกอบการ อาจส่งผลให้ความเชื่อมั่นธุรกิจไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์.