นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า แม้จะเพิ่ง เริ่มต้นปี แต่ ททท.ต้องเปลี่ยนเป้าหมายนักท่องเที่ยวและแผนการตลาด ตลอดจนแนวทางการทำงาน ของ ททท.ตลอดทั้งปีนี้ใหม่ทั้งหมด
เนื่องจากมีหลายปัจจัยเกิดขึ้น โดยเฉพาะการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา จนมีคำสั่งจากนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้บริษัททัวร์หยุดนำ นักท่องเที่ยวออกนอกประเทศ เพื่อจำกัดการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งหากมีเวลา 3 เดือน ชาวจีน ที่จะเข้ามาเที่ยวไทยจะหายไป 1.89 ล้านคน ถือเป็นการปรับเปลี่ยนแผนหลายชั้นจากที่เคยวางไว้ เนื่องจากเดิม ททท.ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ไว้ 40.78 ล้านคน สร้างรายได้ 2.03 ล้านล้านบาท แต่เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย ที่สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้จีดีพี ปีนี้ขยายตัว 3-4% ททท.จึงต้องปรับเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เป็น 41.8 ล้านคน หรือเพิ่ม 1.02 ล้านคนจากเป้าเดิม เพื่อสร้างรายได้ 2.22 ล้านล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 200,000 ล้านบาท
ส่วนตลาดไทยเที่ยวไทยคาดว่าจะโตเป็น 172 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มขึ้น 3% รายได้เพิ่มขึ้น 1.16 ล้านล้านบาท หรือโต 5% ซึ่งตอนนี้คงยึดตามนี้ที่จะสร้างรายได้รวม 3.38 ล้านล้านบาท ก่อนที่จะประเมินผลกระทบของนักท่องเที่ยวจีนอีกครั้ง โดยจะหยิบยกประเด็นนี้เข้าหารือในที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน วันที่ 31 ม.ค.นี้ พร้อมกับข้อเสนอการออกมาตรการต่างๆ
“ปีนี้มีความท้าทายและความเสี่ยงรอบด้าน ทั้งภาวะชะลอตัวของโลกาภิวัตน์ และทุกประเทศหันมาแข่งขันช่วงชิงนักท่องเที่ยว เช่น มาเลเซีย ออกมาตรการยกเว้นวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีนและอินเดีย ขณะที่เวียดนามยกเว้นวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวยุโรปถึงปี 64 พร้อมเพิ่มประเทศที่ขอ E-Visa ได้จาก 40 ประเทศเป็น 75 ประเทศ ด้านญี่ปุ่นเจแปนแอร์ไลน์ประกาศแจกตั๋วฟรีแก่ต่างชาติให้เดินทางท่องเที่ยวภายในญี่ปุ่นช่วงโอลิมปิก 2020 ถึง 100,000 ใบ แม้แต่จอร์เจียได้ยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวกว่า 100 ประเทศ”.