"นิด้าโพล" เผยคนส่วนใหญ่เมินลงทะเบียน "ชิมช้อปใช้" เฟส 2 ชี้ยุ่งยากซับซ้อน อุปสรรคเพียบ ขณะที่ผู้ลงทะเบียนแล้วทั้งเฟส 1 และ 2 มีแผนใช้จ่ายในห้าง แนะปรับปรุงระบบให้ดีขึ้น ครอบคลุมให้ทั่วถึง
เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง “ชิมช้อปใช้เฟส 2 ถูกใจหรือไม่” จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,266 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับโครงการ “ชิมช้อปใช้” เฟสที่ 2 สนับสนุนวงเงินคนละ 1,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยเมื่อถามประชาชนถึงการลงทะเบียน โครงการ “ชิมช้อปใช้” เฟส 2 พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 39.97 ระบุว่า จะไม่ลงทะเบียน เพราะระบบและขั้นตอนการลงทะเบียนที่ยุ่งยากซับซ้อน โทรศัพท์ที่ใช้ไม่รองรับแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ขณะที่บางส่วนระบุว่า ไม่มีเวลา/ไม่สะดวกเดินทางไปใช้จังหวัดอื่น และไม่สนใจ/ไม่ชอบโครงการนี้ รองลงมา ร้อยละ 32.54 ระบุว่า ลงทะเบียนไม่ทัน/ไม่สำเร็จ เพราะการเข้าลงทะเบียน มีระยะเวลานาน ยุ่งยาก
ขณะที่บางส่วนระบุว่า ขั้นตอนการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ไม่ค่อยเสถียร ถ่ายรูปไม่ผ่าน ทำให้ลงทะเบียนไม่สำเร็จ ร้อยละ 22.20 ระบุว่า ได้ลงทะเบียนเฟส 1 แล้ว และร้อยละ 5.29 ระบุว่า ได้ลงทะเบียนเฟส 2 แล้ว ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับผลโครงการ “ชิมช้อปใช้” เฟส 1 เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2562 พบว่า ร้อยละ 58.37 ระบุว่า จะไม่ลงทะเบียน รองลงมา ร้อยละ 25.61 ระบุว่า ได้ลงทะเบียนแล้ว และร้อยละ 16.02 ระบุว่า กำลังจะลงทะเบียน
สำหรับแผนการใช้จ่ายโครงการ “ชิมช้อปใช้” ของผู้ที่ได้ลงทะเบียนเฟส 2 แล้ว พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 35.82 ระบุว่า ได้ใช้/มีแผนจะใช้จ่ายที่ห้างสรรพสินค้า/ซุปเปอร์สโตร์ รองลงมา ร้อยละ 32.84 ระบุว่า ร้านค้าทั่วไปที่เข้าโครงการ ร้อยละ 22.39 ระบุว่า ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้อยละ 5.97 ระบุว่า ร้านธงฟ้าประชารัฐ ร้อยละ 4.48 ระบุว่า ร้านในกลุ่ม OTOP และโรงแรมโฮมสเตย์ ในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 2.99 ระบุว่า ร้านวิสาหกิจชุมชน และร้อยละ 10.45 ระบุว่า ยังไม่แน่ใจ
สำหรับผลโครงการ “ชิมช้อปใช้” เฟส 1 เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2562 พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 41.52 ระบุว่า ได้ใช้/มีแผนจะใช้จ่ายที่ห้างสรรพสินค้า/ซุปเปอร์สโตร์ รองลงมา ร้อยละ 34.10 ระบุว่า ร้านค้าทั่วไปที่เข้าโครงการ ร้อยละ 16.57 ระบุว่า ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้อยละ 15.24 ระบุว่า ร้านธงฟ้าประชารัฐ ร้อยละ 3.62 ระบุว่า ร้านในกลุ่ม OTOP ร้อยละ 2.29 ระบุว่า โรงแรมโฮมสเตย์ ร้อยละ 2.10 ระบุว่า ร้านวิสาหกิจชุมชน และร้อยละ 9.52 ระบุว่า ยังไม่แน่ใจ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อโครงการ “ชิมช้อปใช้” พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 26.70 ระบุว่า ระบบและกติกาการใช้จ่ายยุ่งยากซับซ้อนเกินไป รองลงมา ร้อยละ 26.62 ระบุว่า เปลืองงบประมาณ ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง ร้อยละ 26.15 ระบุว่า ประชาชนได้ประโยชน์จากโครงการนี้ ร้อยละ 24.33 ระบุว่า เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดี ร้อยละ 19.43 ระบุว่า เป็นมาตรการเลือกปฏิบัติเฉพาะกลุ่ม ร้อยละ 15.32 ระบุว่า พ่อค้า นายทุนได้ประโยชน์จากโครงการนี้ ร้อยละ 8.85 ระบุว่า เป็นโครงการทำให้คนได้ออกไปเที่ยว ชิมช้อปใช้ กับครอบครัว
นอกจากนี้ ร้อยละ 4.19 ระบุว่า เป็นโครงการประชานิยม หาเสียงกับชนชั้นกลาง ร้อยละ 2.92 ระบุว่า สร้างความเท่าเทียมกัน เมื่อคนจนได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนชั้นกลางก็ได้ “ชิมช้อปใช้” ร้อยละ 1.42 ระบุว่า ระบบของร้านค้า/ห้าง ยังไม่มีประสิทธิภาพทำให้เกิดปัญหาการใช้เงินจากโครงการ ร้อยละ 0.71 ระบุว่า ระบบและกติกาการใช้จ่ายทำให้สามารถควบคุมการใช้จ่ายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ร้อยละ 0.39 ระบุว่า ระบบของธนาคารกรุงไทยยังไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดปัญหาการใช้เงินจากโครงการ ร้อยละ 3.16 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ในขณะที่ผลโครงการ “ชิมช้อปใช้” เฟส 1 เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2562 พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 27.36 ระบุว่า เปลืองงบประมาณ ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง รองลงมา ร้อยละ 27.28 ระบุว่า เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดี ร้อยละ 25.54 ระบุว่า ระบบและกติกา การใช้จ่ายยุ่งยากซับซ้อนเกินไป ร้อยละ 19.59 ระบุว่า ประชาชนได้ประโยชน์จากโครงการนี้ ร้อยละ 13.80 ระบุว่า พ่อค้า นายทุนได้ประโยชน์จากโครงการนี้ ร้อยละ 13.72 ระบุว่า เป็นมาตรการเลือกปฏิบัติเฉพาะกลุ่ม ร้อยละ 8.96 ระบุว่า เป็นโครงการทำให้คนได้ออกไปเที่ยว ชิมช้อปใช้ กับครอบครัว
ส่วนร้อยละ 8.09 ระบุว่า เป็นโครงการประชานิยม หาเสียงกับชนชั้นกลาง ร้อยละ 3.17 ระบุว่า ระบบของร้านค้า/ห้าง ยังไม่มีประสิทธิภาพทำให้เกิดปัญหาการใช้เงิน จากโครงการ ร้อยละ 2.78 ระบุว่า สร้างความเท่าเทียมกัน เมื่อคนจนได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนชั้นกลางก็ได้ “ชิมช้อปใช้” ร้อยละ 2.54 ระบุว่า ระบบของธนาคารกรุงไทยยังไม่มีประสิทธิภาพทำให้เกิดปัญหาการใช้เงินจากโครงการ ร้อยละ 1.35 ระบุว่า ระบบและกติกาการใช้จ่ายทำให้สามารถควบคุมการใช้จ่ายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ และร้อยละ 6.26 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อภาพรวมโครงการ “ชิมช้อปใช้” พบว่า ร้อยละ 22.43 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 25.51 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 19.67 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ร้อยละ 30.97 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย และร้อยละ 1.42 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ สำหรับผลโครงการ “ชิมช้อปใช้” เฟส 1 เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2562 พบว่า ร้อยละ 22.60 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 25.62 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 21.09 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ร้อยละ 28.95 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย และร้อยละ 1.74 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุด เมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการดำเนินโครงการ “ชิมช้อปใช้” ของรัฐบาล พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 40.36 ระบุว่า ปรับปรุงโครงการให้ดีขึ้น เช่น ปรับปรุงระบบและขั้นตอนการลงทะเบียนให้ง่ายขึ้น ผู้สูงอายุก็สามารถทำเองได้ด้วยตนเอง หรือมีการลงทะเบียนที่ธนาคารกรุงไทย มีช่วงเวลาในการลงทะเบียนที่ชัดเจน ให้สิทธิกับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ใช้สิทธิได้ทุกที่ ทุกจังหวัด และอยากให้เพิ่มวงเงิน เพิ่มร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ รองลงมา ร้อยละ 33.65 ระบุว่า ยกเลิกโครงการ ร้อยละ 20.62 ระบุว่า ดำเนินโครงการต่อไป และร้อยละ 5.37 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ในขณะที่ผลโครงการ “ชิมช้อปใช้” เฟส 1 เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2562 พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 42.19 ระบุว่า ปรับปรุงโครงการให้ดีขึ้น รองลงมา ร้อยละ 34.10 ระบุว่า ยกเลิกโครงการ ร้อยละ 19.74 ระบุว่า ดำเนินโครงการต่อไป และร้อยละ 3.97 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ.