ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่กระทรวงคมนาคม สมาพันธ์รัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย (สรส.) โดยนายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการ สรส. และประธานสหภาพการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นำสมาชิกสหภาพการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และสมาชิกสหภาพ รฟท.มายื่นแถลงการณ์ต่อนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม
โดยนายสาวิทย์กล่าวว่า แถลงการณ์ขอให้รัฐบาลและคมนาคมแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างรัฐวิสาหกิจกับบริษัทเอกชนที่รับสัมปทาน ได้แก่ 1.การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือบีอีเอ็ม 2.รฟท.กับบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) นอกจากนี้ ในอนาคตควรทบทวนนโยบายในโครงการต่างๆของหน่วยงานรัฐที่ให้เอกชนร่วมลงทุน หรือให้สัมปทาน ว่ามีความจำเป็นแค่ไหน โดยเทียบเคียงผลประโยชน์และปัญหาที่จะตามมากับการที่รัฐดำเนินเองโดยคดีโฮปเวลล์นั้นมองว่าสามารถต่อสู้คดีได้ พร้อมทั้งขอให้แต่งตั้งผู้ว่าการ รฟท.ตัวจริงด้วย
ส่วนคดีค่าโง่ทางด่วนมี 2 ประเด็นสำคัญคือ ขอให้สั่งการให้ กทพ.ไปฟังคำพิพากษาของศาลในคดีเปลี่ยนแปลงงานก่อสร้างโครงการทางด่วนขั้นที่ 2 วันที่ 19 ก.ย.นี้ หากคำพิพากษาชี้ว่า กทพ.ชนะคดีจะได้รู้ว่าสมมติฐานที่บอกว่า กทพ.จะแพ้บีอีเอ็มในทุกคดีนั้นเป็นสมมติฐานที่ผิดจะได้นำไปพิจารณาแนวทางการให้สัมปทานใหม่ แต่หากแพ้คดีก็จะเป็นการสนับสนุนแนวทางแก้ปัญหาที่ทำอยู่ได้ ส่วนอีกประเด็นคือ ต้องการให้ทบทวนตำแหน่งผู้ว่าการ กทพ. นอกจากนั้น สหภาพ กทพ.ยังได้ทำหนังสือถึง รมว.คมนาคม เรื่องขอเปลี่ยนแปลงประธานและคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ. และผู้ทำการแทนผู้ว่าการ กทพ.ด้วย
ขณะที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สร.ขสมก.) ยังได้มายื่นหนังสือถึงนายศักดิ์สยามให้เร่งแก้ปัญหาในองค์กร โดยยื่นข้อเสนอ 8 ประการ เช่น ต้องการให้ รมว.คมนาคมเร่งรัดแต่งตั้งบอร์ด ขสมก.แทนบอร์ดที่ลาออกไป หากไม่รีบทำจะทำให้องค์กรเสียหาย, สั่งการให้ ขสมก.ตรวจสอบวิธีการซื้อ หรือเช่าซื้ออู่จอดรถ ซึ่งปัจจุบันเช่าอู่เอกชนหรืออู่ของรัฐในราคาสูง, ขอให้เร่งรัดติดตามข้อเท็จจริงกรณีที่ ขสมก.บอกเลิกสัญญาโครงการเช่าระบบบัตรโดยสาร (อีทิกเก็ต) และเครื่องเก็บค่าโดยสารบนรถประจำทาง 2,600 คัน ทำให้ถูกเอกชนฟ้องเรียกค่าเสียหาย, ให้ ขสมก.ตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชัน และผลประโยชน์ทับซ้อนของพนักงานทุกตำแหน่งและให้ติดตามหนี้สินรถร่วมเอกชนที่ค้างชำระ หรือหากทำผิดสัญญาให้ยกเลิกสัมปทาน, ให้แก้ไขปัญหารถตู้ผิดกฎหมาย, ให้พนักงานขับรถ พนักงานเก็บค่าโดยสาร และพนักงานในตำแหน่งอื่นๆที่ป่วยเป็นโรคสืบเนื่องจากการทำงาน ซึ่งสภาพร่างกายไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่เดิมได้ ให้เข้าโครงการเกษียณก่อนกำหนดตามแผนฟื้นฟูขององค์การ
นอกจากนี้ เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานครได้เสนอมาตรการเยียวยาให้ผู้ประกอบรถแท็กซี่ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายที่กระทรวงคมนาคมจะให้นำรถยนต์ส่วนบุคคลมาให้บริการรถสาธารณะแบบถูกกฎหมาย.