นายรัฐพล ชื่นชมจิตต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า บริษัทจะใช้เงินลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น รวม 13,000 ล้านบาท สำหรับการลงทุนในโครงการที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3, โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟสที่ 3 และโครงการงานและบำรุงรักษา (O&M) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6)
บริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน หลังจากที่จะเริ่มเปิดดำเนินการทั้งหมดในปี 2570 จะมีสัดส่วนของรายได้อยู่ที่ 10-20% ของรายได้รวม มีผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) อยู่ที่ 10% และบริษัทยังมีโครงการลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศ ที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เช่น โรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) 2 แห่ง กำลังการผลิตรวม 5,000 เมกะวัตต์
สำหรับธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ที่ประเทศเวียดนาม จะมีความชัดเจนในปีหน้า โดยเป็นการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้แอลเอ็นจี กำลังการผลิตไฟฟ้า 6,000 เมกะวัตต์ และบริษัทยังได้เจรจากับพันธมิตรจากจีน เพื่อร่วมก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่ลาว กำลังการผลิต 2,500 เมกะวัตต์ และปีนี้มั่นใจว่าบริษัทจะมีรายได้ 30,000 ล้านบาท สูงขึ้นกว่าปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 20,000 ล้านบาท.