พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่างรัฐบาลไทยและสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) จำนวน 6 ฉบับ ในระหว่างนายมุน แช-อิน ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี เยือนไทยอย่างเป็นทางการว่า
ทั้ง 2 ประเทศจะส่งเสริมความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างกันในภูมิภาคให้มากขึ้น รวมถึงผลักดันให้การเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) บรรลุข้อสรุปภายในปีนี้ สำหรับนโยบายมุ่งใต้ใหม่ของเกาหลี ที่ประกาศขยายความร่วมมือด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจไปสู่อาเซียนนั้น มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยและอาเซียน เพราะหลายประเทศอยู่ระหว่างพัฒนาด้านต่างๆ และต้องการมหามิตร เพื่อสร้างประโยชน์ร่วมกัน
“ในโอกาสที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้พานักธุรกิจกว่า 200 รายมาเยือนไทย ได้เชิญชวนให้มาลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เช่น ยานยนต์, ดิจิทัล, อุตสาหกรรมชีวภาพ และตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กับสำนักงานส่งเสริมการค้าการลงทุนเกาหลี (KOTRA) เพื่อหารือเรื่องส่งเสริมการลงทุนของเกาหลีใต้ในไทย และจะจัดประชุมคณะกรรมการความร่วมมือด้านเศรษฐกิจไทย-เกาหลีใต้ ปลายปีนี้”
ด้านนายมุน แช-อิน ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี กล่าวว่า การเยือนไทยครั้งนี้เป็นการเปิดศักราชใหม่ความสัมพันธ์ทางหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ในภูมิภาคและระหว่างประเทศที่มีความท้าทายมากขึ้น โดยให้ความสำคัญ 3 ประเด็น ได้แก่ ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยการปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยเกาหลีใต้พร้อมผลักดันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายมุ่งใต้ใหม่ของเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ยังจะมุ่งส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประชาชน และกระชับความร่วมมือด้านสันติภาพและความมั่นคง “การค้าขาย 2 ประเทศสูงถึง 11,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ประชาชนเดินทางระหว่างกัน 2.3 ล้านคน โดยคนเกาหลีเดินทางมาเที่ยวและทำธุรกิจในไทย 1.8 ล้านคน บริษัทเกาหลีใต้มาลงทุนในไทยมากกว่า 400 บริษัท”
ส่วนการลงนามเอ็มโอยู 6 ฉบับ เช่น ความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ, ความร่วมมือด้านการศึกษาภาษาเกาหลี, ความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศระหว่างกัน การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารทางทหาร เป็นต้น.