“ศักดิ์สยาม” ขอโดดร่วมวงอีอีซีอ้างโครงการไฮสปีด 3 สนามบิน-สนามบินอู่ตะเภา-ศูนย์ซ่อมอากาศยาน-ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และโครงการมาบตาพุดเกี่ยวพันโดยตรงกับกระทรวงคมนาคม
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า วันที่ 2 ส.ค.นี้ นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) จะมาบรรยายสรุปให้ตนและ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม และนายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม รับทราบรายละเอียดของโครงการอีอีซี และโครงการที่เกี่ยวเนื่อง ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคม คือ โครงการรถไฟเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา (MRO), โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบิน, โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และโครงการมาบตาพุด สำหรับสาเหตุที่ต้องให้มาอธิบายทำความเข้าใจเนื่องจากหลายๆโครงการเกี่ยวเนื่องกับกระทรวงคมนาคมโดยตรง แต่ที่ผ่านมาคมนาคมไม่ค่อยได้ดูแลเนื่องจากมีคณะกรรมการอีอีซีดูแลอยู่ ซึ่งกระทรวงคมนาคมต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมในการพิจารณาหรือมีส่วนร่วมในแนวทางการตัดสินใจมากขึ้นกว่านี้ มากกว่าแค่เป็นเจ้าภาพในการเปิดประมูลโครงการเท่านั้น
นอกจากนั้น การดำเนินการโครงการเมกะโปรเจกต์ มูลค่ารวมกว่า 1.7 แสนล้านบาท และโครงการทั่วไปที่อยู่ในแผนของกระทรวงคมนาคม ตนไม่ได้ขัดข้องที่จะให้ดำเนินการต่อเนื่อง แต่เพื่อให้เกิดความรอบคอบอย่างรอบด้าน ตนได้สั่งการให้ นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปรวบรวมจัดลำดับความสำคัญของโครงการที่เร่งด่วน ทั้งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ ระบบรางทั้งหมด รวมทั้งโครงการที่คั่งค้างและได้มีการเสนอ ครม.ไปเมื่อรัฐบาลที่แล้วแต่ยังไม่ได้อนุมัติ มาจัดลำดับความสำคัญ และเตรียมที่จะเสนอ ครม.ใหม่ ส่วนโครงการใดที่จะต้องมีการลงทุนในรูปแบบการร่วมลงทุนในกิจการของรัฐหรือพีพีพีนั้น ได้ให้ปลัดคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาอธิบายหลักคิดว่าทำไมถึงใช้การลงทุนแบบพีพีพี ซึ่งการเข้มงวดก็เพื่อหากมีปัญหาหรือมีข้อสงสัย กระทรวงคมนาคมก็จะสามารถอธิบายให้กับสังคมได้
นายศักดิ์สยามกล่าวต่อถึงนโยบายผลักดันแกร็บแท็กซี่ให้เป็นรถโดยสารสาธารณะที่ถูกกฎหมายว่า กรมการขนส่งทางบก (ขบ.)ได้ประชุมเรื่องนี้ไปแล้ว เบื้องต้นต้องเร่งแก้ไขกฎกระทรวงและกฎหมายเพื่อให้บริการแกร็บแท็กซี่เป็นบริการที่ถูกกฎหมาย ซึ่ง ขบ.ได้เตรียมแก้ไขกฎหมายเรียบร้อยแล้วล่าสุดผู้ให้บริการรถแท็กซี่ โดยประธานเครือข่ายแท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร ได้ประสานงานมาพบตน วันที่ 1 ส.ค.นี้ ซึ่งเรื่องนี้ต้องมาพิจารณาร่วมกันถึงผลกระทบและแนวทางในการชดเชยให้ผู้ประกอบการ.