นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ออกประกาศ เรื่อง กำหนดให้ขยะเทศบาลเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้าและห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ.2562 เพื่อให้ความร่วมมือกับนานาประเทศตามพันธกรณีอนุสัญญาบาเซลในการควบคุมการเคลื่อนย้ายของเสียอันตราย หรือของเสียที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงสกัดกั้นไม่ให้นำเข้าของเสียของอันตรายมาเป็นขยะในประเทศไทย และก่อให้เกิดปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อม รวมถึงสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยประกาศดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.นี้ เป็นต้นไป
“หากผู้ใดฝ่าฝืน นำเข้ามา จะมีโทษตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งสินค้า พ.ศ.2522 โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่าของราคาสินค้าที่นำเข้า หรือมีโทษทั้งจะทั้งปรับ และหากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรการห้ามนำผ่าน จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 2 เท่าครึ่งของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอย้ำให้ผู้ประกอบการศึกษาข้อมูลและประกาศต่างๆ ของกรมฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้กระทบและเป็นอุปสรรคในการนำเข้า-ส่งออกสินค้าของไทย”
ทั้งนี้ขยะเทศบาล อยู่ในพิกัดอัตราศุลกากร 3825.10.00 ได้แก่ ของเสียชนิดที่รวบรวมจากบ้านเรือน โรงแรมภัตตาคาร โรงพยาบาล ร้านค้า สำนักงาน ฯลฯ ของเสียจากการกวาดถนนและทางเท้า รวมถึงของเสียจากการก่อสร้างและรื้อถอน แต่ไม่รวมถึงวัตถุหรือของอย่างเดียวกันที่คัดแยกออกจากขยะ เช่น ของเสียจากพลาสติก ได้แก่ ยาง ไม้ กระดาษ ของเสียทางเภสัชกรรม และของเสียจากสถานพยาบาล เป็นต้น.