HUAWEI WATCH GT ทำยอดขายทั่วโลกกว่า 2 ล้านเรือน

ภายใต้สถานการณ์อันเปราะบางและยอดขายที่หวั่นไหวกับข่าวร้ายต่างๆ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ก็ยังมีเรื่องราวดีๆ เมื่อ HUAWEI WATCH GT สามารถทำยอดขายทั่วโลกได้กว่า 2 ล้านเรือน นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อ ต.ค.2561 กลายเป็นสมาร์ทวอตช์ที่มียอดขายสูงสุดของหัวเว่ยทั่วโลก

โดย ไอดีซี บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลด้านการตลาด รายงานว่าช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 หัวเว่ย ทำยอดขายสมาร์ทวอตช์ได้สูงขึ้น 282.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้วยยอดส่งมอบสินค้า 5 ล้านชิ้น ทำให้ก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์ท็อป 3 แล้ว

โดย HUAWEI WATCH GT ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Lite OS ที่พัฒนาขึ้นเอง ใช้งานได้นานสองสัปดาห์เต็มในสถานการณ์ทั่วไป ซึ่งรวมถึงการสวมใส่ตลอดทั้งวัน การตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การนอนหลับ และการออกกำลังกาย 90 นาทีต่อสัปดาห์ ทำให้พบว่ากว่า 81% ของลูกค้าซื้อ HUAWEI WATCH GT เพราะแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานกว่า

เพราะเชื่อว่า Speed คือความสุข ธนภูมิ ภาคย์วิศาล ผู้อำนวยการและหัวหน้าสายงานการพาณิชย์ทรูออนไลน์ จึงจัดให้ลูกค้า ทรูอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ กว่า 3.5 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ อัปสปีดเพิ่มความเร็วอัตโนมัติ ให้ลูกค้าปัจจุบันได้โปรโมชันเท่ากับลูกค้าใหม่ โดยจะทยอยดำเนินการซึ่งจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ค.นี้ ลูกค้าแค่อยู่เฉยๆ และใจเย็นๆ

สุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการ วีซ่า ประจำประเทศไทย ระบุว่า จากข้อมูลการใช้จ่ายแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด โดยผู้บริโภคมีความมั่นใจที่จะชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลมากขึ้น สะท้อนให้เห็นจากยอดทำธุรกรรมผ่านบัตรวีซ่าในจังหวัดชลบุรี อยุธยา นครราชสีมา และระยอง มีอัตราเพิ่มขึ้นเกิน 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2561

สำหรับข้อมูลด้านการท่องเที่ยวต่างประเทศ บัตรวีซ่าที่ออกโดยธนาคารในประเทศไทย ถูกนำไปใช้มากที่สุดในญี่ปุ่น ตามมาด้วยเกาหลีใต้ อเมริกา อังกฤษ และฮ่องกง ขณะที่ไต้หวันและออสเตรเลีย เริ่มได้รับความนิยมสูง ส่วนสิ่งที่นักท่องเที่ยวไทยเลือกช็อปผ่านบัตรมากที่สุดคือ ของใช้ทั่วไป เสื้อผ้าและเครื่องประดับ ที่พัก ค่าใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้าและร้านอาหาร

ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในไทย ก็มียอดใช้จ่ายสูงขึ้น 4% โดยยอดใช้จ่ายนี้เกิดจากนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน อังกฤษ จีน เยอรมัน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น รัสเซีย ฝรั่งเศส สิงคโปร์ และอินเดีย ซึ่งปีนี้นับเป็นปีแรกที่ชาวอินเดียติดหนึ่งในสิบประเทศที่มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรวีซ่าสูงสุดในไทย ซึ่งยอดใช้จ่ายอยู่ในกรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี

มาก่อนได้ก่อน เพราะรีบรุดอยากปิดช่องใจจะขาด สปริงนิวส์ 19 และ สปริง 26 รวมทั้ง ไบรท์ทีวี 20 จึงได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช.กำหนดให้สามารถปล่อยจอดำมืดได้ตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.2562 เป็นต้นไป

ขณะที่ 4 ช่องที่เหลือ อันประกอบด้วย ช่อง 13 และ ช่อง 28 ในเครือ ช่อง 3, ช่อง 14 อสมท นั้นยังไม่ส่งแผนเยียวยามา ส่วน วอยซ์ทีวี 21 ส่งแผนเยียวยามาแล้ว แต่คณะอนุกรรมการเยียวยายังไม่ได้พิจารณา แต่ไม่ได้แจ้งสาเหตุว่าเพราะอะไร จึงยังไม่พิจารณา สงสัยยุ่ง