กรมการค้าภายใน ย้ำ รพ.เอกชน ต้องแจ้งราคายา-บริการการแพทย์ภายใน 12 ก.ค.

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

กรมการค้าภายใน ย้ำ รพ.เอกชน ต้องแจ้งราคายา-บริการการแพทย์ภายใน 12 ก.ค.

Date Time: 19 มิ.ย. 2562 23:02 น.

Video

“ไทยรัฐ โลจิสติคส์” ถอดคราบ “ยักษ์เขียว” มุ่งสู่ขนส่งครบวงจร | Thairath Money Talk

Summary

  • กรมการค้าภายในย้ำ รพ.เอกชน 300 แห่ง ต้องแจ้งราคาซื้อขายยาภายใน 12 ก.ค.ส่วนเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ 22 ก.ค.จะเรียกชี้แจงหากพบราคาสูงเกินจริง ไม่ร่วมมือเล็งใช้ไม้แข็งคุมส่วนต่างกำไร

Latest


กรมการค้าภายในย้ำ รพ.เอกชน 300 แห่ง ต้องแจ้งราคาซื้อขายยาภายใน 12 ก.ค.ส่วนเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ 22 ก.ค.จะเรียกชี้แจงหากพบราคาสูงเกินจริง ไม่ร่วมมือเล็งใช้ไม้แข็งคุมส่วนต่างกำไร

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้เชิญโรงพยาบาลเอกชน มาชี้แจงให้ทราบถึงแนวทางการปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ฉบับที่ 52 พ.ศ.2562 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.62 โดยกำหนดให้โรงพยาบาลต้องแจ้งราคาซื้อ ขาย ยา เวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์มาให้กรม ว่า เป็นการชี้แจงเพื่อให้โรงพยาบาลเอกชนมีความเข้าใจตรงกัน โดยราคาที่ต้องแจ้งมายังกรม ต้องเป็นต้นทุนของยา เวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ ที่ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วย เช่น ค่าห้อง ค่าแอร์ ค่าเภสัชกร ค่าจ้างพนักงาน ค่าสร้างตึกใหม่ เป็นต้น 

ทั้งนี้ ในส่วนของยา จะต้องแจ้งราคาซื้อและขายยาในกลุ่มบัญชีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิ์ทุกที่ (UCEP) 3,892 รายการ และรายการยาที่มีการจำหน่ายสูงสุด 100 รายการแรก รวม 3,992 รายการ ภายในวันที่ 12 ก.ค.2562 ส่วนราคาเวชภัณฑ์ 868 รายการ และค่าบริการทางการแพทย์ 5,286 รายการ ให้แจ้งภายในวันที่ 22 ก.ค.62 จากนั้น จะนำข้อมูลที่ได้มาตรวจสอบกับบัญชีราคายาของกรมบัญชีกลาง และข้อมูลที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ ทั้งจากบริษัทผู้ผลิตยา และผู้นำเข้า เพื่อดูว่าเป็นราคาที่สอดคล้องกับต้นทุนหรือไม่ แล้วจึงจะนำราคาเผยแพร่บนเว็บไซต์ www.dit.go.th และจัดทำ QR Code ยาแต่ละรายการ จัดส่งให้โรงพยาบาลเอกชนไปแสดงไว้เพื่อให้ผู้ป่วยได้ตรวจสอบได้ คาดว่าจะตรวจสอบได้ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.62 เป็นต้นไป

“หลังวันที่ 12 ก.ค.62 จะดูว่าราคาแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่แตกต่าง ก็จะไม่ยุ่ง แต่ถ้ามีราคาสูงเกินจริง จะเชิญโรงพยาบาลเอกชนรายนั้น มาชี้แจงก่อน ถ้ายังไม่ร่วมมือขายยาให้สอดคล้องกับต้นทุน ก็ต้องใช้อำนาจตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 ทั้งๆ ที่ไม่อยากใช้อำนาจตามกฎหมายเลย โดยมาตรการที่จะนำมาใช้ได้ เช่น กำหนดอัตรากำไรที่เหมาะสม แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ไปถึงขั้นนั้น เพราะกรมไม่ต้องการใช้ และหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการนี้”

นอกจากนี้ ยังได้ย้ำกับโรงพยาบาลเอกชนทุกแห่ง จะต้องให้การรักษาเท่าที่จำเป็น ห้ามรักษาเกินจริง และจะต้องแจ้งรายละเอียดให้ผู้ป่วยรับทราบด้วยว่าเป็นโรคอะไร ค่ารักษาเท่าไร เหตุการณ์แบบท้องเสีย มีค่าใช้จ่าย 30,000 บาท จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก และในใบสั่งยา จะต้องระบุรายละเอียดชื่อ ราคา ให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในการไปซื้อยาภายนอกโรงพยาบาล


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์