นายสิโรจ ประเสริฐผล กรรมการบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีประเทศไทยได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย ภายหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตาม ม.44 สั่งปิดเหมืองทองคำอัคราที่จังหวัดพิจิตร เมื่อวันที่ 10 พ.ค.2559 ว่า
บริษัทในฐานะบริษัทลูกของคิงส์เกตฯ กำลังติดตามความชัดเจนว่า บุคคลใดจะมาเป็น รมว.อุตสาหกรรมคนใหม่ เพื่อขอเข้าพบและหารือในรายละเอียดอย่างจริงใจ เพื่อนำไปสู่แนวทางยุติการฟ้องร้องที่เกิดขึ้นและในเงื่อนไขของการเจรจาจะต้องมีทั้งประเด็นการชดเชยความเสียหายให้กับเหมืองอัคราตลอดเวลาที่ถูกสั่งปิด และประเด็นการให้ข้อยืนยันว่าหากคิงส์เกตจะลงทุนในไทยต่อไป จะต้องไม่ถูกรัฐบาลสั่งปิดโดยไร้ข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เช่นในปัจจุบันว่าเหมืองปล่อยสารพิษกระทบสุขภาพประชาชนรอบเหมือง เพราะเมื่อปี 2558 เคยถูกสั่งปิด 45 วัน และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 “ล่าสุดกระบวนการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการในสิงคโปร์ยังคงเดินหน้าต่อไป โดยในเดือน พ.ย.นี้ ทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการนำเสนอข้อมูลหลักฐานในการต่อสู้คดีอีกครั้งหนึ่ง”.