พอใจส่วนลด! ครม.ลุยมาบตาพุดเฟส 3

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการขอปรับปรุงหลักการของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เสนอ โดยปรับปรุงจำนวนเงินร่วมลงทุนของรัฐตามที่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้มีการเจรจาเพิ่มเติมกับภาคเอกชนผู้ชนะการประมูลในโครงการ ได้แก่ กลุ่มบริษัทกิจการร่วมค้ากัลฟ์กับพีทีทีแทงค์ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ตั้งข้อสังเกตให้ไปเจรจากับเอกชนเพื่อให้รัฐได้ประโยชน์มากที่สุด

โดยในส่วนของค่าถมทะเล จากที่ กนอ.ต้องจ่ายให้ภาคเอกชน 720 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 30 ปีนั้น หลังจากการเจรจาแล้วตกลงที่ปีละ 710 ล้านบาท ระยะเวลา 30 ปี รวมวงเงิน 21,300 ล้านบาท ส่งผลให้ผลตอบแทนทางการเงินขั้นต่ำของ กนอ.จากการร่วมลงทุนกับเอกชนช่วงที่ 1 และ 2 รวมเท่ากับมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) 6,721 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมที่จะได้รับ 6,606 ล้านบาท โดยเป็นผลตอบแทนโครงการช่วงที่ 1 อยู่ที่ 139 ล้านบาท

ส่วนผลตอบแทนโครงการช่วงที่ 2 นั้น กนอ.ได้รับ 6,582 ล้านบาท โดยการเจรจานี้ เป็นการคิดตามสมมติฐาน อัตราคิดลดจากอัตราดอกเบี้ยที่ภาคเอกชนสามารถกู้ได้ที่ประมาณ 4% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าในครั้งที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2561 ซึ่งเคยใช้อัตราส่วนเงินกู้ 2.5% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่เป็นการกู้ยืมระหว่างภาครัฐหรือเป็นไปตามสัดส่วนเงินกู้พันธบัตรรัฐบาล (Reference Price) ขณะที่ในฝั่งผลตอบแทนทางการเงินของ กนอ.ตลอดโครงการคิดเป็นอัตราผลตอบแทนทางการเงิน (FIRR) 9.21% และผลตอบแทนของภาคเอกชนที่ชนะการประมูลหลังการต่อรองลดลงจากเดิม 14,371 ล้านบาท เป็น 14,298 ล้านบาท คิดเป็น FIRR 10.73%.