นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบขยายเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี สำหรับผู้บริจาคหรือสนับสนุนการกีฬาให้แก่การกีฬาแห่งประเทศไทย คณะกรรมการกีฬาจังหวัด สมาคมกีฬาแห่งจังหวัด สมาคมกีฬาที่ใช้คำว่า “แห่งประเทศไทย” หรือกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการกีฬาแห่งประเทศไทยและกรมพลศึกษา โดยขยายระยะเวลาไปอีก 1 ปี ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2562 เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมสนับสนุนการกีฬาอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ครม.เห็นชอบให้ยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่บุคคลธรรมดา หรือบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับการบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร ให้แก่สถานศึกษาที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทย ตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับทบวงการชำนาญพิเศษแห่งสหประชาชาติ ที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2562 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2562 ซึ่งเป็นการขยายเวลาจากเดิมสิ้นสุดไปเมื่อถึงวันที่ 31 ธ.ค.2561 เพื่อจูงใจให้ประชาชนและเอกชนสนับสนุนการปฏิรูปการศึกษา
นอกจากนั้น ครม.ยังเห็นชอบให้การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เปิดวงเงินกู้ระยะสั้น 1,500 ล้านบาท กับธนาคารที่มีเงื่อนไขเหมาะสมที่สุด เพื่อสำรองเป็นเงินทุนหมุนเวียนเสริมสภาพคล่อง ในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน โดยวงเงินกู้ดังกล่าวอยู่ภายใต้กรอบแผนการก่อหนี้ ยสท. วงเงิน 3,000 ล้านบาท ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ปีงบประมาณ 2562 เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายในองค์กร หลังจากที่รายได้ของการยาสูบต่ำกว่าเป้าหมาย โดยมีปัจจัยหลักมาจากการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต ทำให้ราคาบุหรี่เพิ่มขึ้นและยอดจำหน่ายบุหรี่ลดลง และต้องช่วยเหลือเกษตรกรโดยรับซื้อใบยาสูบจากเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบในส่วนที่เกินกว่าความต้องการจริง.