ผลเปิดซองเสนอราคา ร้านค้าปลอดภาษี "ดิวตี้ฟรี" สนามบินภูมิภาค "คิง เพาเวอร์" ยังคงเปิดซองเป็นผู้เสนอราคาสูงสุด เหนือกลุ่มโรงแรมรอยัลออคิด เชื่อไม่ยอมปล่อยธุรกิจ "เจ้าสัว" หลุดมือแน่นอน
วันที่ 10 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)(ทอท.) ว่า เมื่อเวลา 09.30 น. คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกเอกชนเข้ามาดำเนินการร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) สนามบินภูมิภาค (เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต) ได้เปิดซองราคาเอกชน ปรากฏว่า 1.บริษัท คิง เพาเวอร์ เป็นผู้เสนอราคาสูงสุด 2.กลุ่มโรงแรมรอยัลออคิด เป็นผู้เสนอเป็นอันดับ 2 และ 3.กลุ่มบางกอกแอร์เวย์ส
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเปิดซองราคาสนามบินภูมิภาคในครั้งนี้ ในส่วนของกลุ่มคิง เพาเวอร์ ได้มี นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ลูกชายคนโตของเจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา พร้อมด้วย นายสมบัตร เดชาพานิชกุล รองประธานกรรมการ บริษัท คิง เพาเวอร์ เข้าร่วมดูและฟังผลการเปิดซองราคาในครั้งนี้ โดยก่อนหน้านี้ในการเปิดซองร้านค้าปลอดอากรสนามบินสุวรรณภูมิ นายอภิเชษฐ์ ก็ได้เดินทางมาฟังผลด้วยตัวเอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทางกลุ่มคิง เพาเวอร์ไม่ปล่อยธุรกิจที่เจ้าสัววิชัยหลุดมือไปแน่นอน
นายสมบัตร เดชาพานิชกุล รองประธานกรรมการ บริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า วันนี้มาดูการเปิดซองราคา ซึ่งในส่วนของคิง เพาเวอร์ จากผลวันนี้ก็พร้อมที่เดินหน้าต่อไป เพราะเรามีประสบการณ์ในด้านนี้ ส่วนกรณีที่ว่า ดิวตี้ฟรีสนามบินภูมิภาคไม่คุ้มค่าลงทุนนั้น ในเรื่องนี้เป็นธุรกิจที่บริษัททำอยู่ ดังนั้นจึงไม่หนักใจ แม้ว่าสนามบินภูมิภาคผลการดำเนินการคาดว่าจะไม่ดี แต่จะใช้ศักยภาพที่มีทำเต็มที่
ต่อข้อถามที่ว่า ต้องประมูลทุกสนามบิน โดยเฉพาะสนามบินภูมิภาค แม้ว่าสนามบินภูมิภาคจะมีผลประกอบการที่ไม่ได้ เพื่อรักษาศักดิ์ศรีใช่ไหม นายสมบัตร ได้แต่หัวเราะและไม่ตอบคำถาม
"ส่วนการประมูลครั้งต่อไปทั้ง จุดรับส่งสินค้า (pick up counter) และร้านค้าปลอดอากรในสนามบินดอนเมืองนั้น ทางคิง เพาเวอร์จะมีการประเมินสถานการณ์ แต่คาดว่าไม่น่าจะพลาด อย่างไรก็ตามให้การประมูลทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ค่อยรอสัมภาษณ์จากคุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา อีกครั้ง"
ด้านนายวิทวัส วิภากุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรงแรมรอยัลออคิด ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การประมูลร้านค้าปลอดอากรสนามบินภูมิภาค (เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต)ในครั้งนี้ ผลปรากฏว่า กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้คะแนนสูงสุดที่ 96% กลุ่มรอยัลออคิด ร่วมกับ ดิวตี้ฟรีจากประเทศอังกฤษ ได้คะแนน 86% และกลุ่มบางกอกแอร์เวย์ส ได้คะแนน 84%
"การประมูลครั้งนี้ยอมรับว่าเสียใจและเสียดายมาก เพราะบริษัทได้ไปจับกลุ่มกับดิวตี้ฟรีระดับโลกจากประเทศอังกฤษมา ซึ่งได้มีการเจรจาร่วมกันว่าหากได้เข้ามารับสัมปทานดิวตี้ฟรี จะมีการนำสินค้าไทยไปขายใน 2,200 สาขาทั่วโลก" นายวิทวัส กล่าว.