นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า คณะกรรมการกลางเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคของเมียนมา ได้ออกประกาศเกี่ยวกับการติดฉลากสินค้าจำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ ประกาศว่าด้วยการกำหนดสินค้าที่ต้องติดฉลากและคำแนะนำในการใช้สินค้าเป็นภาษาเมียนมา และประกาศว่าด้วยการกำหนดแนวทางและขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับการติดฉลากสินค้าภาษาเมียนมา โดยกำหนดประเภทสินค้าที่ต้องติดฉลากเป็นภาษาเมียนมา 8 กลุ่มสินค้า ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องใช้ในครัวเรือน สินค้าสำหรับเด็ก เครื่องมือเทคโนโลยีและการสื่อสาร ยาและอาหารเสริม สารเคมี เครื่องสำอาง อุปกรณ์อาบน้ำ และเครื่องมือทางการเกษตรและอุปกรณ์ออกกำลังกาย
ทั้งนี้ ภายใต้ประกาศดังกล่าว กำหนดให้แสดงเนื้อหาสำคัญ ได้แก่ คำแนะนำสำหรับการใช้งาน วิธีการเก็บรักษา คำเตือนและข้อควรระวัง และผลข้างเคียงจากการใช้ (ถ้ามี) โดยสินค้าบางประเภทอาจไม่จำเป็นต้องระบุรายละเอียดสินค้าให้ครบทั้ง 4 ข้อ และมีข้อกำหนดในการปฏิบัติที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า ปริมาณ และขนาดของสินค้า
“ได้มีการเจรจาต่อรองเพื่อให้ผู้ประกอบการไทยมีเวลาปรับตัว จนรัฐบาลเมียนมาได้ผ่อนปรน และได้ขยายระยะเวลาบังคับใช้ออกไปอีก 1 ปี คือ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.63 จากเดิมมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.62” นายอดุลย์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ประกอบการไทยหารือผู้นำเข้าเมียนมา รวมทั้งหน่วยงานที่กำกับดูแลสินค้าแต่ละชนิด เพื่อจะได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง เนื่องจากสินค้าบางชนิดอาจใช้การติดสติกเกอร์แทนการพิมพ์ฉลากใหม่ได้ เช่น สินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ขอให้สอบถามหน่วยงานอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข, สินค้าปุ๋ย/ยาปราบศัตรูพืช หารือกระทรวงเกษตรฯ เพราะบรรจุภัณฑ์ปุ๋ยจะต้องเป็นการสกรีนฉลากภาษาเมียนมาลงบนถุงปุ๋ย เป็นต้น.