นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตั้งแต่สหรัฐฯเริ่มทำสงครามการค้ากับจีน โดยขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนตั้งแต่รอบแรก จนถึงการขึ้นภาษีล่าสุดเมื่อเดือน พ.ค.62 นั้น กรมได้ติดตามกรณีนี้อย่างใกล้ชิด เพราะหลายฝ่ายเกรงว่าอาจมีสินค้าจากจีนจำนวนมากส่งออกไปประเทศต่างๆทั่วโลก รวมถึงไทยแทนการส่งออกไปสหรัฐฯ แล้วอาจทำให้ผู้ผลิตสินค้าชนิดเดียวกันของไทยได้รับผลกระทบ เช่น มียอดขายตกต่ำ ส่วนแบ่งตลาดลดลง กรมสามารถดำเนินการได้
ภายใต้กฎหมายต่างๆที่กรมดูแลเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหา และเยียวยาผลกระทบให้ผู้ผลิตของไทย ทั้งนี้ หากพบว่าสินค้าจีนส่งออกมาไทยแล้วแอบอ้างแหล่งกำเนิดสินค้าว่าผลิตจากไทย แล้วส่งออกต่อไปยังสหรัฐฯ กรมสามารถใช้มาตรการตอบโต้การหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการทางการค้าได้ (เอซี) ซึ่งเป็นมาตรการภายใต้ พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ (เอดี/ซีวีดี) “กรมได้ร่วมมือกับศุลกากรสหรัฐฯและประเทศอื่นๆเพื่อตรวจสอบ หลังศุลกากรสหรัฐฯได้ชี้เบาะแสว่า อาจมีสินค้าหลายชนิดจากจีน เช่น สินค้าที่เกี่ยวเนื่องจากเหล็ก ที่สหรัฐฯใช้มาตรการทางการค้า อาจแอบอ้างแหล่งกำเนิดสินค้าไทยแล้วส่งออกต่อไปสหรัฐฯ โดยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบถึงโรงงานผลิตสินค้าที่เป็นของจีนในไทย ทั้งโรงงานผลิตตะปูและไม้แขวนเสื้อจากเหล็ก พบว่ามีการแอบอ้างซึ่งกรมได้ระงับการออกใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าแล้ว”
นอกจากนี้ หากพบว่ามีการส่งออกมาไทยมากจนผิดปกติ กรมสามารถใช้มาตรการเซฟการ์ด เพื่อสกัดการนำเข้าได้ และหากมีการส่งออกมาไทยแบบดัมพ์ตลาด โดยตั้งราคาขายต่ำกว่าที่ขายในจีนหรือต่ำกว่าต้นทุน จนทำให้ผู้ผลิตไทยได้รับผลกระทบ กรมสามารถเปิดไต่สวนเพื่อใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนได้ หากพบว่ามีการทุ่มตลาดจริงและผู้ผลิตไทยได้รับความเสียหาย ก็จะประกาศเก็บภาษีเอดีกับสินค้าที่ส่งออกจากจีน หรือประเทศอื่นๆที่ทุ่มตลาดไทย “ผลของสงครามการค้า นอกจากจะทำให้เศรษฐกิจและการค้าโลกชะลอตัวแล้ว ยังส่งผลให้ไทยมีโอกาสส่งออกสินค้าเพื่อทดแทนสินค้าของจีนในตลาดสหรัฐฯ และทดแทนสินค้าสหรัฐฯในตลาดจีนได้ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร และอาหารบางรายการ ที่จีนไม่นำเข้าจากสหรัฐฯ เช่น หมู ซึ่งไทยต้องเจรจากับจีนเพื่อส่งออกเนื้อหมูไปจีนให้ได้ นอกจากนี้ ไทยควรใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) อาเซียน-จีน ส่งออกสินค้าไปจีนให้มากขึ้นเพื่อทดแทนสินค้าสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้ไทยได้แต้มต่อเหนือคู่แข่ง”.