เปิดเทอมจ๋อยเม็ดเงินหายวูบ ฐานรากระมัดระวังการใช้จ่าย

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เปิดเทอมจ๋อยเม็ดเงินหายวูบ ฐานรากระมัดระวังการใช้จ่าย

Date Time: 16 พ.ค. 2562 08:40 น.

Summary

  • ออมสินเผย ประชาชนฐานรากใช้จ่ายช่วงเปิดเทอมปี 62 ลดลง 18% หรือ จำนวน 3.49 หมื่นล้านบาท แถมซ้ำกู้เงินนอกระบบมาใช้มากกว่าในระบบ เหตุระวังการจับจ่ายใช้สอยและรับมือค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

Latest

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ย้ำชัด ไทยไม่ลด "ดอกเบี้ย" ตามเฟด ชี้ "บาทแข็งค่า" ไม่ทุบทิศทางส่งออกไทย

ออมสินเผย ประชาชนฐานรากใช้จ่ายช่วงเปิดเทอมปี 62 ลดลง 18% หรือ จำนวน 3.49 หมื่นล้านบาท แถมซ้ำกู้เงินนอกระบบมาใช้มากกว่าในระบบ เหตุระวังการจับจ่ายใช้สอยและรับมือค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น วางแผนการใช้เงิน-เลือกใช้ของเดิม ชี้ 3 อันดับแรกที่ต้องใช้จ่าย คือ ค่าเครื่องแต่งกาย-ค่าเทอม-อุปกรณ์การเรียน

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยฯ ได้ทำการสำรวจการใช้จ่ายของประชาชนฐานรากในช่วงเปิดเทอม ปี 2562 จากกลุ่มตัวอย่างประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาททั่วประเทศ จำนวน 2,186 ตัวอย่าง พบว่าประชาชนฐานรากส่วนใหญ่ 67.3% มีภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของบุตร 1 คน และอยู่ในระดับการศึกษาในชั้นประถมศึกษามากที่สุด

ส่วนภาพรวมการใช้จ่ายของประชาชนฐานรากในช่วงเปิดเทอม คาดว่าจะมีการจับจ่ายใช้สอยประมาณ 34,970 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครัวเรือน อยู่ที่ 7,030 บาท ซึ่งปรับลดลงจากปีที่แล้ว เนื่องจากกลุ่มตัวอย่างบางส่วนเลือกที่ใช้สิ่งของเดิมที่มีอยู่แล้ว อาทิ ชุดนักเรียน การสนับสนุนหนังสือเรียนจากโรงเรียน เป็นต้น

“สำหรับภาพรวมช่วงเปิดเทอม ปี 2562 ประชาชนฐานรากมีการใช้จ่ายลดลงจากปีก่อน โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยลดลงถึง 18% เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่มีระมัดระวังเรื่องการจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้นและการรับมือกับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น อาทิ เลือกที่จะใช้สิ่งของเดิมที่มีอยู่แล้ว การปรับลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตอื่นๆ ที่ไม่จำเป็น เลือกซื้อสินค้าจากแหล่งที่ราคาถูกที่สุด และหารายได้เสริม เป็นต้น ส่วนเรื่องเป้าหมายทางการศึกษาพบว่า ส่วนใหญ่ยังเน้นการศึกษาสายสามัญเพื่อมุ่งหวังปริญญามากกว่าการศึกษาในสายอาชีพ”

นอกจากนี้ จากผลสำรวจพบว่าในปี 2562 ประชาชนฐานรากมีการใช้เงินกู้สำหรับการศึกษาของบุตร/หลานเพิ่มขึ้นจากปีก่อน และยังเป็นการกู้เงินจากนอกระบบมากกว่าในระบบ ดังนั้นการที่รัฐบาลออกมาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ในช่วงเปิดเทอม 500 บาทต่อบุตร 1 คน ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะได้รับครั้งเดียวภายใน 15 พ.ค.นี้ จะเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้มีรายได้น้อยได้

ส่วนแหล่งที่มาของเงินที่นำมาใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมปี 2562 พบว่า ส่วนใหญ่เกินครึ่งมาจากรายได้ 54.7% เงินจากคนในครอบครัว 24.4% เงินออม 10.2% เงินสวัสดิการจากภาครัฐ 5.8% และเงินกู้ยืม/จำนำ 4.9% ซึ่งมีทั้งเงินกู้นอกระบบและในระบบ อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ต้องนำเงินที่ได้จากการเก็บออมมาใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอม มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว และมีการกู้เงินจากนอกระบบมากกว่าในระบบ

ขณะที่เมื่อสำรวจการใช้จ่ายด้านต่างๆ ในช่วงเปิดเทอม พบว่า กิจกรรมการใช้จ่าย 3 อันดับแรกที่กลุ่มตัวอย่างประชาชนฐานรากต้องรับผิดชอบ คือ 1.ชุดนักเรียนและเครื่องแต่งกาย 75.1% มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,575 บาท 2. ค่าเทอมและค่าบำรุงการศึกษา 56.1% มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 5,470 บาท 3.ค่าอุปกรณ์การเรียน 51.3% มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 895 บาท

“เมื่อสอบถามถึงปัจจัยสำคัญในการเลือกโรงเรียนให้กับบุตร/หลาน พบว่า ปัจจัยสำคัญ 3 อันดับแรก ในการเลือกโรงเรียนให้บุตรหลาน คือ 1.เลือกโรงเรียนที่มีนโยบายเรียนฟรี 2. เลือกการเดินทางสะดวกและใกล้บ้านหรือใกล้ที่ทำงานของผู้ปกครอง และ 3.เลือกเพราะมีค่าเทอมและค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมาก”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ