ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นอีก 2 แสนคน ดึงแม่ค้าออนไลน์-บุคคลทั่วไปเสียภาษี

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นอีก 2 แสนคน ดึงแม่ค้าออนไลน์-บุคคลทั่วไปเสียภาษี

Date Time: 7 พ.ค. 2562 07:47 น.

Summary

  • “กรมสรรพากร” ไล่ล่าถอนขนห่าน ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนคนเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่มขึ้นอีก 2 แสนคน เน้นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าขายของผ่านระบบออนไลน์ รวมทั้งประชาชนทั่วไป

Latest

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ย้ำชัด ไทยไม่ลด "ดอกเบี้ย" ตามเฟด ชี้ "บาทแข็งค่า" ไม่ทุบทิศทางส่งออกไทย



“กรมสรรพากร” ไล่ล่าถอนขนห่าน ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนคนเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่มขึ้นอีก 2 แสนคน เน้นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าขายของผ่านระบบออนไลน์ รวมทั้งประชาชนทั่วไป เพื่อแก้ปัญหาคาใจและให้ความเป็นธรรมให้กับคนที่เสียภาษีถูกต้องในระบบ การันตีปีงบประมาณ 2562 เก็บรายได้ทะลุเป้าจากที่ตั้งไว้ 2 ล้านล้านบาท

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ในปีภาษี 2561 มีผู้มายื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีรวมทั้งสิ้น 11.2 ล้านราย มากกว่าปีภาษี 2560 ที่มีผู้มายื่นแบบแสดง 10.9 ล้านราย หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 300,000 ราย ขณะเดียวกันในปีภาษี 2561

มีการยื่นผ่านระบบออนไลน์มากถึง 89.5% โดยเฉพาะผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กที่อยู่ในระบบออนไลน์ อาทิ พ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าผ่านระบบโซเชียลมีเดีย เป็นต้น จึงมีแผนจะขยายฐานภาษีบุคคลธรรมดาให้เพิ่มขึ้นอีก 200,000 รายต่อปี เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจออนไลน์ หรือประชาชนทั่วไปเข้ามาเสียภาษีให้มากขึ้น

“เมื่อปีภาษี 2561 นอกจากจำนวนยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะเพิ่มขึ้นแล้ว จำนวนเงินที่บุคคลธรรมดาต้องจ่ายภาษีก็เพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2560 โดยปีภาษี 2561 ที่สิ้นสุดระยะเวลาการยื่นแบบภาษีไปเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ที่ต้องชำระภาษีเพิ่มขึ้น 17,600 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีภาษี 2560 แล้ว มีผู้ยื่นแบบเสียภาษีและต้องชำระภาษีเพิ่มเติม รวมกันที่ 17,400 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 200 ล้านบาท”

ทั้งนี้ การที่มีผู้มายื่นภาษีเพิ่มมากขึ้นในปีภาษี 2561 ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายต่างๆของรัฐบาลที่กระตุ้นให้คนที่อยู่นอกระบบเข้ามาเสียภาษีอย่างถูกต้องในระบบมากขึ้น และการอำนวยความสะดวกต่างๆให้กับผู้เสียภาษี โดยเฉพาะผ่านระบบออนไลน์ของกรมสรรพากร

“ปัญหาของประเทศไทยคือ คนหลบเลี่ยงภาษียังมีจำนวนมาก ส่วนพนักงานเงินเดือนหลบเลี่ยงการเสียภาษีไม่ได้อยู่แล้ว เพราะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย แต่ก็ยังมีคนที่ทำงานโดยไม่ได้เสียภาษีอีกจำนวนมาก ซึ่งตรงนี้จะทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับคนที่ต้องเสียภาษีอย่างถูกต้อง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขยายฐานภาษีของกรมสรรพากร ที่ผ่านมาได้ให้ความสำคัญต่อการตรวจสอบการเสียภาษีธุรกิจที่อยู่บนระบบออนไลน์ ที่ปัจจุบันกฎหมายภาษีอีเพย์เมนต์ได้มีผลบังคับใช้แล้ว โดยบุคคลหรือนิติบุคคลที่มีการรับโอนเงินตั้งแต่ 3,000 ครั้งต่อปี หรือหากเป็น 400 ครั้งต่อปี ซึ่งทั้ง 2 รูปแบบนี้ หากมีวงเงินรวมกัน 2 ล้านบาทขึ้นไป ธนาคารพาณิชย์ที่ลูกค้าฝากเงินอยู่ต้องส่งข้อมูลให้กับกรมสรรพากร เพื่อให้กรม สรรพากรนำข้อมูลไปพิจารณาประเมินภาษี อาทิ กรณีบุคคลธรรมดา คนคนหนึ่งอาจทำงานมีรายได้ประจำเป็นเงินเดือน แต่เมื่อมองจากธุรกรรมการโอนเงินแล้ว หากมีการรับโอนเงินมากกว่า 3,000 ครั้งต่อปี ก็ต้องตรวจสอบ เพราะไม่ใช่เรื่องปกติของบุคคลทั่วๆไป

สำหรับปีงบประมาณ 2562 กรมสรรพากร ได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีโดยนำเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลมาช่วยวิเคราะห์เพื่อหาผู้ประกอบการรายใหม่ ซึ่งอยู่นอกระบบ เพื่อเชื่อมโยงไปยังรายได้ที่แท้จริงของผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นการปรับปรุงระบบการคัดเลือกและตรวจสอบการเสียภาษีให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น

ขณะที่ผลการจัดเก็บรายได้ 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2562 (ต.ค.2561-มี.ค.2562) สามารถจัดเก็บภาษีทุกประเภทได้รวม 823,000 ล้านบาท สูงกว่าปีงบประมาณ 2561 เฉลี่ย 6.9% และสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 118 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2562 จะสามารถจัดเก็บภาษีได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ที่ 2 ล้านล้านบาท หรืออาจจัดเก็บได้สูงกว่าที่ประเมินไว้ โดยรายได้จากการจัดเก็บภาษีมาจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะภาษีการรับมรดก อากรแสตมป์ และรายได้อื่นๆ.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ