นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ผลิตเครื่องดื่มหลายยี่ห้อผลิตเครื่องดื่มมอลต์ประเภทไม่มีแอลกอฮอล์ออกมา ซึ่งไม่อยู่ในพิกัดอัตราภาษีเดิม กรมสรรพสามิตจึงได้หารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อเตรียมจะเปิดพิกัดภาษีใหม่ หรือหมวดหมู่รายการใหม่ในการเก็บภาษีเครื่องดื่มของสรรพสามิต หลังเทศกาลสงกรานต์นี้ โดยจะกำหนดเก็บภาษีเครื่องดื่มชนิดนี้สูงกว่ากลุ่มภาษีเครื่องดื่มที่มีความหวาน หรือภาษีน้ำหวาน แต่จะต่ำกว่าเบียร์ที่เสียภาษีอยู่ที่ 22% ของราคาขายบวกปริมาณแอลกอฮอล์ เนื่องจากเครื่องดื่มชนิดนี้มีแอลกอฮอล์เหลือน้อยกว่า 0.5% หรือ 0.5 ดีกรีเท่านั้น
“ปัจจุบันเครื่องดื่มมอลต์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ถูกจัดเก็บภาษีตามภาษีน้ำหวาน เหมือนเช่นโค้ก และน้ำอัดลมสีต่างๆ ตามอัตราภาษีของกรมโดยราคาขายปลีกเครื่องดื่มมอลต์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ราคาตั้งแต่ 39-99 บาท จะถูกจัดเก็บภาษีในอัตรา 14% ของราคาขายปลีกแนะนำ หรือคิดเป็น 5-12 บาทต่อหนึ่งกระป๋อง แต่หากสามารถออกพิกัดใหม่ และจัดเก็บภาษีจากเครื่องดื่มประเภทนี้ได้ จะทำให้กรมจัดเก็บภาษีจากเครื่องดื่มอีกหลายประเภทที่มีแอลกอฮอล์เหลือน้อยกว่า 0.5% ได้ ซึ่งอาจรวมถึงผลิตภัณฑ์ยาที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมด้วย อาทิ ยาแก้ไอ ยาแก้ท้องเสีย เป็นต้น โดยการเปิดพิกัดภาษีใหม่นั้น กรมสามารถออกเป็นกฎกระทรวง เพื่อประกาศใช้ทันที
“ทั้งนี้ เห็นด้วยกับกระทรวงสาธารณสุขว่า แม้เครื่องดื่มประเภทนี้ไม่มีแอลกอฮอล์ แต่หากมีการผลิตเครื่องดื่มเหล่านี้ออกมามาก อาจเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนอยากไปทดลองดื่มเครื่องดื่มประเภทเบียร์มากขึ้น ส่วนเรื่องชื่อเรียกกระทรวงสาธารณสุขไม่ให้เรียกว่า เบียร์ไม่มีแอลกอฮอล์ ให้ใช้คำว่า เครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์แทน”.