นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ปี 61 ว่า สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อน โดยขยายตัวเพิ่มขึ้น 6% จาก 4.4% ในช่วงปี 60 ซึ่งสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ในปี 62 คาดว่า สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์โดยรวมจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 6-7% จากปีก่อนหน้า โดยมาจากสินเชื่อที่ต่อเนื่องจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ และการลงทุนเพิ่มของภาคเอกชน ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จะยังทรงตัวในระดับใกล้เคียงกับปี 61 ไม่ลดลงเร็วอย่างที่คาด
ทั้งนี้ การขยายตัวที่เพิ่มขึ้นมาจากสินเชื่ออุปโภคบริโภคในทุกประเภทสินเชื่อ ซึ่งสอดคล้องกับการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวดี ขณะที่สินเชื่อธุรกิจที่ขยายตัวดีขึ้น จากการใช้สินเชื่อเพิ่มขึ้นของธุรกิจขนาดใหญ่และผู้ประกอบการขนาดกลางขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่วงเงินค่อนข้างสูง โดยสินเชื่อธุรกิจโดยรวมในปี 61 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 4.4% จากสินเชื่อภาคบริการขนาดใหญ่ในธุรกิจที่พักแรม ซึ่งเป็นการขอสินเชื่อเพื่อซื้อกิจการเครือโรงแรมในต่างประเทศรวมทั้งการขยายตัวของสินเชื่อในภาคพาณิชย์ และอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอีขยายตัวเพิ่ม 4.5%
สำหรับสินเชื่ออุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนสูงถึง 9.4% จาก 3 ภาคหลัก 1.สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ขยายตัวสูงต่อเนื่อง และเร่งตัวขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปีเพื่อให้ทันก่อนมาตรการเพิ่มการเงินวางดาวน์จะบังคับใช้ในเดือน เม.ย.นี้ 2.สินเชื่อรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นตามยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น หลังสิ้นสุดมาตรการรถยนต์คันแรก และ 3.สินเชื่อส่วนบุคคลทุกประเภท เช่น สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีบ้านเป็นหลักประกัน สินเชื่อทะเบียนรถ และสินเชื่อสวัสดิการ
ด้านคุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นปี 61 สัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ 2.93% ของสินเชื่อรวม ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 2.91% โดยมียอดคงค้างที่เป็นเอ็นพีแอล 443,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน 14,000 ล้านบาท สะท้อนภาพรวมคุณภาพสินเชื่อที่เริ่มทรงตัว แต่ในด้านเสถียรภาพ ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญอยู่ในระดับสูงที่ 668,000 ล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนเงินสำรองที่มีต่อเงินสำรองพึงกันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 193.3% ขณะที่ในด้านฐานะการเงินในปี 61 ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 207,200 ล้านบาท.