ตอบโจทย์ธุรกิจ-รัฐดิจิทัล ไม่ล่ม-รวดเร็ว-เงินไม่หาย เปิดแผนกลยุทธ์ใหม่ระบบชำระเงิน

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ตอบโจทย์ธุรกิจ-รัฐดิจิทัล ไม่ล่ม-รวดเร็ว-เงินไม่หาย เปิดแผนกลยุทธ์ใหม่ระบบชำระเงิน

Date Time: 15 ก.พ. 2562 05:45 น.

Summary

  • “แบงก์ชาติ” เปิดแผนกลยุทธ์ระบบการชำระเงิน ฉบับที่ 4 มุ่งพัฒนา 5 ด้าน ยกระดับมาตรฐานใช้ ISO 20022 ดันโอนเงินดิจิทัล

Latest

ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ย้ำชัด ไทยไม่ลด "ดอกเบี้ย" ตามเฟด ชี้ "บาทแข็งค่า" ไม่ทุบทิศทางส่งออกไทย

“แบงก์ชาติ” เปิดแผนกลยุทธ์ระบบการชำระเงิน ฉบับที่ 4 มุ่งพัฒนา 5 ด้าน ยกระดับมาตรฐานใช้ ISO 20022 ดันโอนเงินดิจิทัลเป็นช่องทางหลักในการชำระเงินของคนไทย ด้านสมาคมธนาคารไทย ยันต่อไประบบไม่ล่ม เงินไม่หาย ไม่ติดขัดแน่นอน ส่วนภาคธุรกิจเชื่อมั่นมองโอกาสค้าขายเพิ่มขึ้น

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในการเสวนาในหัวข้อ “ก้าวต่อไปของการชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัล (Digital Payment)” และการเปิดเผยแผนกลยุทธ์ระบบการชำระเงิน ฉบับที่ 4 ว่า การวางแผนกลยุทธ์ของระบบการชำระเงินของไทย ในช่วงปี 62-64 นี้ จะแตกต่างจากแผนเดิม โดยจะมุ่งให้การชำระเงินดิจิทัลเข้ามาทดแทนการใช้เงินสดให้มากที่สุด และสามารถที่จะประสานการใช้ร่วมกับภาคธุรกิจ การซื้อขายออนไลน์ และการเข้าสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล

“ธปท.จะสร้างระบบนิเวศการชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัลเป็นทางเลือกหลักของประเทศ ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ราคาถูก และตรงความ ต้องการของผู้ใช้ ผ่านกรอบการพัฒนา 5 ด้าน 1.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้เชื่อมโยงได้ในทุกภาคส่วน โดยเพิ่มขีดความสามารถและความมั่นคงปลอดภัยของระบบตามมาตรฐานสากล ISO 20022 ด้านที่ 2.ส่งเสริมนวัตกรรมและบริการชำระเงิน พัฒนาบริการที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ 3.ส่งเสริมการเข้าถึงและใช้บริการ และความรู้ความเข้าใจในทุกภาคส่วน 4.กำกับดูแลความเสี่ยง สร้างภูมิคุ้มกัน รับมือภัยไซเบอร์ และคุ้มครองผู้ใช้บริการ 5.การพัฒนาและเชื่อมโยงข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงลึก”

ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวต่อว่า การชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัลในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นสูงมาก โดยมีปริมาณการใช้ 5,868 รายการเพิ่มขึ้น 83% ขณะที่มีการลงทะเบียนพร้อมเพย์รวม 46.5 ล้านเลขหมาย มีการใช้เฉลี่ย 4.5 ล้านรายการต่อวัน มูลค่าเฉลี่ย 5,000 บาทต่อรายการ ในปี 2561 เติบโตเฉลี่ย 20% ต่อเดือน นอกจากนี้ การใช้บัตรเดบิตและเครดิตยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะทางออนไลน์ทำรายการเพิ่มขึ้น 155% ขณะที่ในปี 61 ยังเป็นปีแรกที่มีการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มและเคาน์เตอร์ธนาคารลดลง หลังจากที่ยอดเคยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาทุกปีอีกด้วย

ด้านนายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวในงานเสวนาว่า สมาคมธนาคารไทย และ ธปท.ได้ร่วมมือในเรื่องนี้มาต่อเนื่อง และการตั้งเป้าหมายที่จะนำ ISO 20022 มาใช้ จะทำให้มาตรฐานในการชำระเงินดิจิทัลของไทยดีขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถรองรับการเข้าใช้บริการที่เพิ่มขึ้นและหนาแน่นขึ้นได้ ตามความต้องการใช้ของประชาชนที่เพิ่มขึ้น

โดยในส่วนของการโอนเงินออนไลน์ได้ขยายปริมาณธุรกรรมการเงินให้สามารถรับได้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากช่วงธุรกรรมเดิมที่เคยมีปัญหาล่ม และตั้งมาตรฐานความเร็วในการโอน 1 วินาทีต่อ 1 รายการ รวมทั้งจะมีระบบการป้องกันการส่งธุรกรรมการเงินจากสถาบันการเงินที่ระบบมีปัญหา ทำให้จากนี้ หากมีสถาบันการเงินใดมีปัญหาการชำระเงิน จะถูกกันออกไปไม่ให้สร้างปัญหาทั้งระบบทันที นอกจากนั้นยังพัฒนาระบบการรู้จักตัวตนของลูกค้า โดยเทคโนโลยีชีวภาพ และระบบรองรับการรับจ่ายเงินที่จะไม่มีเงินหาย หรือการตัดเงิน โดยยังไม่ได้ทำรายการให้เสร็จสิ้น

ขณะที่นายวราวุธ นาถประดิษฐ์ รองผู้จัดการทั่วไปสายงานการค้า บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) กล่าวในส่วนของธุรกิจว่าระบบการชำระเงินที่ได้พัฒนาทั้งการใช้แอปพลิเคชันในการชำระเงิน ระบบพร้อมเพย์ และคิวอาร์โค้ด ช่วยให้ธุรกิจการค้า ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ รวมทั้งธุรกิจการขนส่งสินค้าได้รับความสะดวกมากขึ้น ขณะที่ลูกค้าทั้งตัวเอสเอ็มอีที่ส่งของ และลูกค้าที่ซื้อของ มีความมั่นใจในการใช้บริการมากขึ้น เพราะอย่างกรณีเคอรี่ ที่มีบริการส่งของโดยให้ลูกค้าชำระเงินได้ที่หน้าบ้าน ผ่านไลน์เพย์ และคิวอาร์โค้ดที่หน้าบ้าน ทำให้สบายใจทั้งคนส่งของและคนรับเงิน ว่าจะไม่มีปัญหาระหว่างกัน ซึ่งที่ผ่านมา มีเอสเอ็มอี และธุรกิจใช้บริการเคอรี่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ