เอไอเอสร่วมวงนาโนไฟแนนซ์ บิ๊กดาต้าฐานลูกค้าต่อยอดความล่ำซำ

เอไอเอสขยายโอกาสธุรกิจ ใช้บิ๊กดาต้าฐานลูกค้าขนาดใหญ่ต่อยอดความล่ำซำ เตรียมจับมือแบงก์ โดดร่วมวงสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ แถมพัฒนาระบบร่วมขายโฆษณากับฟรีทีวีที่ออกอากาศบนเอไอเอสเพลย์ หวังแข่งไลน์ ยูทูบและเฟซบุ๊ก

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เปิดเผยว่า จากความพยายามที่จะเริ่มนำฐานข้อมูลลูกค้าจำนวนมา (บิ๊กดาต้า-Big Data) ที่มีอยู่ มาขยายโอกาสทางธุรกิจ ขณะนี้เอไอเอสกำลังเริ่มพัฒนาแพลตฟอร์มนาโนไฟแนนซ์ เพื่อทำงานร่วมกับพันธมิตรธนาคาร ในการปล่อยกู้สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (นาโนไฟแนนซ์) โดยการดำเนินงานจะอยู่ภายใต้ใบอนุญาตของธนาคารพาณิชย์ แต่อาศัยข้อมูลบิ๊กดาต้าของลูกค้าเอไอเอส เพื่อให้การปล่อยกู้มีความแม่นยำ มีประสิทธิภาพและตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น “ขณะนี้เรากำลังคุยกับธนาคาร 2 แห่ง ซึ่งการใช้ฐานข้อมูลลูกค้า จะอยู่ ภายใต้เงื่อนไขที่ลูกค้ายินยอมและเป็นไปตามกฎหมาย”

นอกจากนั้น เอไอเอสยังกำลังพัฒนาระบบ Advertising Distributor เพื่อเดินหน้าสู่การเป็นแพลตฟอร์มที่มีเครื่องมือในการตอบสนองงานโฆษณาในโลกยุคใหม่ และสามารถทำงานแข่งกับแพลตฟอร์มจากต่างประเทศอย่างไลน์ ยูทูบ และเฟซบุ๊กได้ ผ่านการใช้ฐานข้อมูลบิ๊กดาต้าของลูกค้าเอไอเอสเช่นกัน

“เรามีแอปพลิเคชันเอไอเอสเพลย์ (Ais Play) ซึ่งเป็นช่องทางในการออกอากาศฟรีทีวีทุกช่องอยู่ มีฐานลูกค้ารับชมประจำทุกเดือนประมาณ 4 ล้านคน และมีระบบวัดเรตติ้งความนิยม ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ต่อจากนี้ไปเราจะก้าวไปอีกขั้น ด้วยการทำเครื่องมือที่จะทำให้ฟรีทีวีขายโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งฟรีทีวีทั่วไปยังไม่มีความถนัด”

นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวเพิ่มเติมว่า แพลตฟอร์มนาโนไฟแนนซ์มีโมเดลธุรกิจคล้ายคลึงกับที่อาลีบาบา อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากค่ายจีนทำ นั่นคือใช้บิ๊กดาต้าลูกค้า ไปใช้ประโยชน์ในการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากและแทบไม่มีปัญหาหนี้เสีย โดยคาดว่าน่าจะเปิดตัวได้ราวปลายปี ส่วนระบบ Advertising Distributor นั้น จะทำให้ประเทศไทยมีแพลตฟอร์มที่สามารถให้บริการแข่งขันกับไลน์ ยูทูบ และเฟซบุ๊กได้ เพราะปัจจุบันฟรีทีวีที่ออกอากาศผ่านแพลตฟอร์มเหล่านั้น ได้รับส่วนแบ่งจากค่าโฆษณาน้อยกว่าที่ควร โดยหากการพัฒนาระบบเสร็จสิ้นลงภายใน 6 เดือนข้างหน้า ฟรีทีวีที่ออกอากาศบนเอไอเอสเพลย์ จะสามารถขายโฆษณาได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้นจากบิ๊กดาต้าที่เอไอเอสมี.