สัปดาห์หน้า ออกประกาศให้รพ.เอกชน ปิดป้ายแสดงราคาค่ายา-หมอ

“พาณิชย์” เตรียมออกประกาศ กกร. กำหนดให้รพ.เอกชน ปิดป้ายแสดงราคา “ยาและเวชภัณฑ์-บริการทางการแพทย์” ให้ผู้ป่วยตัดสินใจ ก่อนใช้บริการ ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณามาตรการกำกับดูแลยาและเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ครั้งแรก ว่า กรมการค้าภายใน ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) จะออกประกาศ กกร. กำหนดให้โรงพยาบาลเอกชนทุกแห่งปิดป้ายแสดงราคายาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ให้ชัดเจน เปิดเผย ซึ่งเป็นมาตรการแรกที่จะนำมาใช้หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้เป็นสินค้าและบริการควบคุม ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ. 2542 โดยคาดจะออกประกาศได้ภายในสัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ตาม หากโรงพยาบาลไม่ดำเนินการตาม จะมีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ โดยต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนบริการทางการแพทย์ ได้ขอความร่วมมือสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ให้แจ้งสมาชิกทุกรายให้แจกแจงค่าบริการทางการแพทย์อย่างละเอียดทั้ง 2 กลุ่ม ทั้งค่าบริการทางการแพทย์ ที่เป็นค่ารักษาพยาบาล และบริการเสริมอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ค่าห้องพัก ค่าบริการอื่นๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ก่อนตัดสินใจใช้บริการ

นอกจากนี้ ยังได้แต่งตั้งคณะทำงาน มีนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธาน เพื่อพิจารณาโครงสร้างต้นทุนค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชน โดยจะแบ่งตามระดับของโรงพยาบาล เช่น 5 ดาว 4 ดาว 3 ดาว เป็นต้น โดยให้เวลาพิจารณาภายใน 60 วัน และนำให้รายละเอียดที่ได้ทั้งหมดเสนอให้คณะอนุกรรมการฯ พิจารณา เพื่อหามาตรการกำกับดูแลที่เหมาะสมต่อไป พร้อมมอบหมายให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ให้โรงพยาบาลเอกชนประกาศสิทธิ์ให้ผู้บริโภคเห็นได้ชัดเจนว่าสามารถขอใบสั่งยาไปซื้อยาจากภายนอกได้ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหายามีราคาแพงลงได้อีกแนวทางหนึ่ง

ส่วนกรณีผู้ป่วยฉุกเฉินซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดอยู่แล้วว่า จะเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ฟรีในทุกโรงพยาบาลใน 72 ชั่วโมงแรก แต่ยังมีการกำหนดเงื่อนไขการรับรักษา ต้องเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินในขั้นวิกฤติ หรือในระดับสีแดงเท่านั้น ทำให้ผู้ป่วยในระดับสีเหลือง หรือสีเขียว ที่มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ถูกปฏิเสธการรักษา จึงได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขไปพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้ป่วย เพราะผู้ป่วยควรจะได้สิทธิ์ในการรักษา

ขณะเดียวกัน เห็นว่าในการรักษาโรค โรงพยาบาลเอกชนจะต้องแจ้งให้ผู้ป่วยทราบก่อนว่าจะได้รับการรักษาอย่างไร มีค่าใช้จ่ายเท่าไร หรือกรณีที่เข้าไปรักษาโรคหนึ่ง แต่มีการตรวจสอบพบโรคอื่นเพิ่มเติม จะต้องแจ้งรายละเอียดการรักษาและค่าใช้จ่ายให้ชัดเจนด้วย

"แนวทางทั้งหมดนี้ กระทรวงพาณิชย์จะขอความร่วมมือก่อน หากโรงพยาบาลเอกชนไม่ให้ความร่วมมือ จึงจะใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการต่อไป แต่จากที่ประชุมครั้งนี้ ทุกฝ่าย ทั้งโรงพยาบาลเอกชน และมูลนิธิผู้บริโภค พึงพอใจกับมติที่ประชุม ซึ่งพิจารณาแล้วเป็นธรรมกับทุกฝ่าย"