องค์การคลังสินค้า ส่งฟ้องแพ่ง ทำรัฐเสียหายจำนำข้าว 246 สัญญา

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

องค์การคลังสินค้า ส่งฟ้องแพ่ง ทำรัฐเสียหายจำนำข้าว 246 สัญญา

Date Time: 6 ม.ค. 2562 21:33 น.

Video

“ไทยรัฐ โลจิสติคส์” ถอดคราบ “ยักษ์เขียว” มุ่งสู่ขนส่งครบวงจร | Thairath Money Talk

Summary

  • "สนธิรัตน์" เผย อคส. ส่งอัยการฟ้องแพ่ง คู่สัญญาโครงการจำนำข้าว ทำรัฐเสียหายหมดแล้ว ทั้ง 246 สัญญา ทันเส้นใต้ “วิษณุ” ในสิ้นปี 61 รวมเรียกค่าเสียหายกว่า 3 แสนล้านบาท

Latest


"สนธิรัตน์" เผย อคส. ส่งอัยการฟ้องแพ่ง คู่สัญญาโครงการจำนำข้าว ทำรัฐเสียหายหมดแล้ว ทั้ง 246 สัญญา ทันเส้นใต้ “วิษณุ” ในสิ้นปี 61 รวมเรียกค่าเสียหายกว่า 3 แสนล้านบาท...

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเดือนธ.ค.61 องค์การคลังสินค้า (อคส.) รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ส่งเอกสารหลักฐาน ที่คู่สัญญาของ อคส. ทั้งเจ้าของโกดังที่รัฐเช่าเพื่อฝากเก็บข้าวสารในสต๊อก และบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว (เซอร์เวเยอร์) กระทำความผิด และการทำผิดสัญญา ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกตั้งแต่ปี 51/52, ปี 54/55, ปี 55/56 และปี 56/57 จนส่งผลให้รัฐเกิดความเสียหาย ให้กับพนักงานอัยการแล้ว จากนั้นอัยการจะรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมด เพื่อทำสำนวนส่งฟ้องทางแพ่งต่อศาลต่อไป ถือว่า อคส.ได้ส่งอัยการทันตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กำหนดภายในวันที่ 31 ธ.ค.61 ก่อนที่คดีจะหมดอายุความ ส่วนคู่สัญญาของ อคส. จะต้องชดใช้ความเสียหายให้รัฐหรือไม่ อย่างไร อยู่ที่ศาลจะตัดสิน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า อคส.ได้รวบรวมเอกสารหลักฐานที่คู่สัญญาของ อคส. กระทำผิดสัญญา เช่น ทำข้าวหาย ข้าวเสื่อมคุณภาพ เป็นต้น ส่งให้พนักงานอัยการครบทั้งหมด 246 สัญญาแล้ว แบ่งเป็น คดีของเจ้าของโกดังทำผิดสัญญา 167 สัญญา ส่งอัยการเมื่อเดือนพ.ย.61 และคดีของเซอร์เวเยอร์ อีก 79 สัญญา ส่งอัยการเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.61 คิดเป็นมูลค่าความเสียหายที่อคส.เรียกจากคู่สัญญาสูงถึงกว่า 300,000 ล้านบาท

ทั้งนี้หลังจากนี้ พนักงานอัยการจะรวบรวมเอกสารหลักฐาน และทำสำนวนส่งฟ้องศาลต่อไป ซึ่งอัยการต้องเร่งส่งฟ้องศาลให้ทันก่อนคดีจะหมดอายุความ โดยแต่ละคดีจะทยอยหมดอายุความตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.-5 ส.ค.62 หรือภายใน 5 ปี นับจากวันที่คณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐบาล ที่มี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้ตรวจสอบข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลเมื่อวันที่ 3 ก.ค.-5 ส.ค.57

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้หากมีข้อมูลที่ยังไม่ครบถ้วน อัยการสามารถขอมายัง อคส.ได้ ล่าสุด อัยการ ขอให้ อคส. ทำข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสียหายต่างๆ เช่น ความเสียหายที่เกิดจากคู่สัญญาทำให้ข้าวสูญหาย หรือข้าวเสื่อมคุณภาพรวมดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าตรวจสอบคุณภาพ ค่ารมยา ค่ากระสอบ ค่าเช่าโกดัง รวมดอกเบี้ย ซึ่งอคส.อยู่ระหว่างการรวบรวมและจัดส่งให้อัยการ

ส่วนการที่ก่อนหน้านี้ อคส.ได้ส่งหนังสือทวงถาม (โนติส) ไปยังคู่สัญญาทั้งหมดที่ทำผิดสัญญา เพื่อให้มาชดใช้ความเสียหายให้กับอคส. และหากไม่ชดใช้ อคส.จะยึดหนังสือสัญญาค้ำประกัน (แอลจี) นั้น ปรากฏว่า ธนาคารบางแห่ง ซึ่งเป็นผู้ออกแอลจีให้กับคู่สัญญาอคส. ยอมให้ยึด และบางแห่งไม่ยอม คาดว่า คู่สัญญาไม่น่าจะสามารถชดใช้ค่าเสียหายได้ เพราะส่วนใหญ่ต้องชดใช้ตั้งแต่กว่า 1,000 ล้านบาทถึงกว่า 9,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน คู่สัญญาบางรายได้ฟ้องศาลขอให้คุ้มครองชั่วคราว โดยให้ศาลระงับผลการตรวจสอบคุณภาพข้าว ของคณะกรรมการตรวจสอบปริมาณฯ ของ ม.ล.ปนัดดา เพราะไม่มีความน่าเชื่อถือ ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ จึงไม่สามารถนำมาอ้างได้ว่า คู่สัญญาเป็นผู้ทำให้ข้าวในสต๊อกเสื่อมคุณภาพ ขณะที่บางรายยังฟ้องร้อง อคส.ฐานไม่จ่ายเงินค่าเช่าโกดัง และค่ารมยาให้ด้วย

สำหรับคดีอาญาที่เกิดจากการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกตั้งแต่ปี 51/52, ปี 54/55, ปี 55/56 และปี 56/57 รวม 884 คดีนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพราะมีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันกระทำผิด คิดเป็นมูลค่าความเสียหายสูงถึงราว 115,000 ล้านบาท โดยบางคดีได้ส่งฟ้องศาลไปแล้ว.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์