แห่ซื้อสินค้าชุมชนร้านธงฟ้า

นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงได้ติดตามผลการจำหน่ายสินค้าในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ทั้งแบบใช้เครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (อีดีซี) และแบบใช้แอปพลิเคชัน “ถุงเงินประชารัฐ” รับชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ ที่ปัจจุบันมีอยู่ 70,000 ร้านทั่วประเทศ โดยพบว่า ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน มีการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรแล้ว 50,000 ล้านบาท สินค้าที่ขายดีส่วนใหญ่เป็นสินค้าของเกษตรกร ผู้ผลิตในชุมชนประมาณ 50% ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและผู้ผลิตสินค้าชุมชน 25,000 ล้านบาท สินค้าที่จำหน่ายได้ดีและได้รับความนิยม ได้แก่ ข้าวสาร ข้าวสารบรรจุถุง ซึ่งมีทั้งที่แบ่งขาย หรือเป็นยี่ห้อจากผู้ผลิตชุมชน ที่ขายดีอันดับหนึ่ง มียอดจำหน่ายสูงสุด ส่วนสินค้าอื่นๆ ที่ขายดีรองลงมา ได้แก่ สินค้าเกษตร ผลผลิตทางการเกษตร อาหารแปรรูป เช่น กะปิ น้ำปลา น้ำพริก หอมแดง กระเทียม และผลไม้ เช่น สับปะรด ลำไย มะพร้าว เป็นต้น

“สินค้าที่ขายดี ซึ่งเดิมเคยขายอยู่เพียงในจังหวัด หรืออยู่ในภาคใดภาคหนึ่ง แต่ปัจจุบันได้ใช้กลไกร้านค้าธงฟ้า เข้ามาช่วยเป็นที่ขายสินค้า ทำให้มีสินค้าข้ามจังหวัด หรือข้ามภาคมาจำหน่าย ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เช่น ลำไยจากภาคเหนือ เอาไปจำหน่ายที่ภาคใต้ ลองกองจากภาคใต้ เอาไปจำหน่ายภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กะปิ จากกระบี่ พังงา ภูเก็ต เอาไปขายยังภาคต่างๆทั่วประเทศ”

ทั้งนี้ ในปัจจุบันกระทรวงกำลังเร่งรัดเพิ่มจำนวนร้านค้าธงฟ้า แบบใช้แอปพลิเคชัน “ถุงเงินประชารัฐ” เพื่อเพิ่มทางเลือกในการซื้อสินค้าให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีอยู่ 14.5 ล้านราย โดยหากมีจำนวนร้านค้าแบบใช้แอปฯเพิ่มมากขึ้นตามเป้าหมาย 100,000 ราย จะช่วยให้สินค้าจากเกษตรกร สินค้าชาวบ้าน มีช่องทางการจำหน่ายเพิ่มขึ้นอีก.