นายสุรพล ชามาตย์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ผลการศึกษาทางวิชาการ เรื่องสารโซเดียมไซยาไนด์ที่สามารถนำไปใช้ผลิตยาบ้าได้ และส่วนใหญ่มีการลักลอบนำสาร ดังกล่าวเข้าออกผ่านเส้นทางธรรมชาติในลักษณะกองทัพมด ที่ในแต่ละครั้งจะพบปริมาณที่มากขึ้น และไม่ได้เข้าผ่านทางช่องทางปกติ ที่มีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เป็นผู้กำกับดูแลภายใต้กฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วัตถุอันตราย พ.ศ.2535
ดังนั้น กระทรวงจึงได้เพิ่มมาตรการควบคุมดูแลที่เข้มงวด กวดขันยิ่งขึ้น เริ่มจากสารโซเดียมไซยาไนด์ เพื่อเป็นการสกัดกั้น การนำไปใช้ผลิตยาเสพติด ตั้งแต่ต้นทางอย่างเร่งด่วนและทันท่วงที โดยแบ่งการทำงานเป็น 3 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน จะได้ร่วมกับหน่วยปราบปรามเข้าตรวจ ทั้งการนำเข้า กรณีนำไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม จะต้องจัดเตรียมข้อมูลกระบวนการผลิต และต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ตลอดเวลา กรณีนำเข้าเพื่อจำหน่าย จะมีอายุใบอนุญาตไม่เกิน 1 ปี เป็นต้น
ขณะที่การส่งออกจะพิจารณาออกใบอนุญาตเป็นรายครั้ง แทนการอนุญาตเดิมซึ่งกำหนดไว้ 3 ปี และให้แจ้งข้อมูลผู้ซื้อ ที่อยู่ วัตถุประสงค์การนำไปใช้ โดยกระทรวงจะประสานข้อมูลไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อตรวจสอบและใช้ประกอบการพิจารณาอนุญาต สำหรับระยะกลางจะเชิญประชุมผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงข้อมูลและมาตรการที่จะดำเนินการเพิ่มเติม ฯลฯ และระยะยาว กรอ. จะทบทวนและปรับปรุงบัญชีรายชื่อสารเคมี เพื่อทำให้ทราบวัตถุประสงค์การนำไปใช้งาน และวิเคราะห์ข้อมูลของสารเคมี ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากข้อมูลผู้ประกอบการ และปริมาณการ นำเข้า-ส่งออก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง.