ชง ครม.ของบ 1.4 หมื่นล้าน เพิ่มค่าเวนคืนที่ดินมอเตอร์เวย์บางใหญ่

กรมทางหลวงชง ครม.ของบเพิ่ม 14,217 ล้านบาท โปะค่าเวนคืนที่ดินมอเตอร์เวย์ บางใหญ่-กาญจนบุรี อ้างราคาที่ดินสูงกว่าที่เคยประเมินไว้ 5,420 ล้านบาท พร้อมยอมรับงานล่าช้ากว่าแผน 40% สาเหตุไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมาได้ ต้องเลื่อนเปิดให้บริการไปต้นปี 2564

นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 25 ก.ย.นี้ กรมทางหลวงจะเสนอเรื่องให้ ครม.พิจารณาจัดสรรค่ากรรมสิทธิ์ที่ดิน โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์ เวย์) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี เพิ่มขึ้นจาก 5,420 ล้านบาท เป็น 19,637 ล้านบาท โดยจะขออนุมัติกรอบวงเงินเพิ่ม 14,217 ล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายค่ากรรมสิทธิ์ที่ดินส่วนที่เหลือ เนื่องจากราคาที่ดินในพื้นที่ก่อสร้างโครงการ สูงกว่าราคาที่เคยประเมินไว้ ส่งผลให้ไม่สามารถเวนคืนที่ดิน และเปิดพื้นที่ให้ผู้รับเหมาดำเนินการก่อสร้างได้

“ตอนนี้ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น ทำให้กรมทางหลวงต้องกลับมาพิจารณาวงเงินและขออนุมัติเพิ่มกรอบวงเงิน เพื่อให้งานเดินหน้าต่อได้ ภาพรวมของงานโยธาปัจจุบันก่อสร้างไปแล้ว 11-12% ล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้ประมาณ 40% โดยมีงานที่ก่อสร้างไปแล้วเพียง 2-3 ตอน ที่เหลือยังไม่สามารถส่งมอบให้ผู้รับเหมาเข้าดำเนินการก่อสร้างได้ จึงถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุดของกรมทางหลวงที่จะต้องทำในตอนนี้”

อย่างไรก็ดี ปัญหาการส่งมอบพื้นที่ที่ล่าช้ากว่าแผน ยังทำให้กำหนดการเปิดใช้มอเตอร์เวย์สายดังกล่าวล่าช้าออกไปอีกประมาณ 8-12 เดือน จึงคาดว่าจะเลื่อนเปิดให้บริการออกเป็นช่วงต้นปี 2564 ทั้งนี้ หากได้รับการอนุมัติจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม กรมทางหลวงจะทยอยแบ่งจ่ายงบประมาณในปี 2561 ที่ได้รับจัดสรรเป็นค่าก่อสร้างประมาณ 9,200 ล้านบาท โอนไปจ่ายเป็นค่ากรรมสิทธิ์ที่ดินก่อน และในปี 2562 จะนำเงินที่ได้จัดสรรใหม่ประมาณ 5,000 ล้านบาทมาจ่ายค่ากรรมสิทธิ์ที่ดินส่วนที่เหลือเพิ่ม หลังจากนั้นในปี 2563 จะตั้งงบเบิกจ่ายรวม 14,000 ล้านบาทไปชดเชยเป็นค่างานก่อสร้างต่อไป

นายธานินทร์ ยังกล่าวอีกว่า หากได้รับการอนุมัติจัดสรรงบประมาณรอบใหม่ กรมทางหลวงจะสามารถดำเนินการโอนจ่ายค่ากรรมสิทธิ์ได้ทันทีภายใน 1 เดือน ขณะที่ผู้รับเหมามีความพร้อมลงพื้นที่เตรียมการไว้ก่อนหน้านี้แล้วจึงมั่นใจว่าโครงการดังกล่าวสามารถสานต่องานได้ทันที ทั้งนี้ แม้ตนจะลาออกจากตำแหน่งในวันนี้ (22 ก.ย.) แต่ได้มอบหมายงานให้กับนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ที่จะเข้ามารับตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวง โดยนั่งรักษาการในวันที่ 23 ก.ย.นี้ พร้อมให้เร่งโครงการดังกล่าวต่อในทันที

ขณะที่ความคืบหน้าการประกาศเชิญชวนให้เอกชนร่วมลงทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี มูลค่ารวม 61,000 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการ ม.35 ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ร่วมทุนปี 2556 ซึ่งคาดว่าหากได้ตัวผู้ชนะการประมูลสิทธิ์ และลงนามสัญญาได้แล้ว จะใช้เวลาดำเนินการติดตั้งระบบ 2 ปี 6 เดือน จึงคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 2564

“ตอนนี้งานโยธาของมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-โคราช คืบหน้าไปแล้ว ซึ่งน่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จก่อนการติดตั้งระบบโอแอนด์เอ็มเสร็จ ดังนั้นในเบื้องต้นกรมทางหลวงจึงเตรียมเปิดให้บริการมอเตอร์เวย์สายดังกล่าวก่อน โดยจะเปิดให้ใช้ฟรี เฉพาะรถยนต์ที่ไม่เกิน 4 ล้อ ไม่อนุญาตให้รถบรรทุกใช้งาน เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อเงื่อนไขสัญญาการบำรุงรักษา”

นอกจากนี้ กรมทางหลวงยังได้จัดตั้งศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One stop service center) เพื่อเปิดให้รถที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักบรรทุกเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เช่น รถขนส่งอุปกรณ์ก่อสร้าง รถขุด รถตัก สามารถเดินรถบนมอเตอร์เวย์ ทางหลวงแผ่นดิน และทางหลวงสัมปทานได้ ซึ่งศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จจะลดเวลาดำเนินการขออนุญาตจากเดิมลง 15 วัน.