นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า การเปิดรับซองประมูลเพื่อเข้าเป็นผู้ดำเนินการหลัก (โอเปอเรเตอร์) ในแหล่งปิโตรเลียมเอราวัณและบงกช ภายใต้ระบบแบ่งปันผลผลิต (พีเอสซี) ที่จะเปิดให้ยื่นประมูลในวันที่ 25 ก.ย.นี้ จะยังคงดำเนินการตามกำหนดการเดิม แม้ที่ผ่านมาจะมีกลุ่มผู้ไม่เห็นด้วยเข้ายื่นหนังสือต่อศาลปกครอง โดยจะใช้เกณฑ์การคัดเลือกผู้ที่ชนะการประมูลอย่างเข้ม เพื่อควบคุมต้นทุนด้านพลังงานให้กับภาคประชาชน เช่น ด้านคุณภาพในการบริหาร ด้านเทคนิค ความสามารถในเชิงพาณิชย์ ราคาก๊าซ ผลประโยชน์ตอบแทนรัฐ เป็นต้น
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานจะพิจารณาข้อมูลต่างๆอย่างรอบด้าน โดยต้องใช้เวลา 2 เดือนในการคัดเลือกนับจากวันที่เปิดให้ยื่นประมูล ซึ่งจะเป็นไปตามกำหนดการเดิมที่จะได้รายชื่อผู้ชนะในเดือน ธ.ค.นี้ ดังนั้นผู้ประกอบการที่จะได้เข้าเป็นโอเปอเรเตอร์ก็ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการแข่งขันที่เสนอมาให้ภาครัฐ ขณะเดียวกันคาดว่าการเปิดประมูลเพื่อต่ออายุแหล่งเอราวัณและบงกชครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดการลงทุนรวมถึงเม็ดเงินที่เข้าสู่ภาครัฐกว่า 100,000 ล้านบาท จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ
“ผมก็เข้าใจประเด็นที่มีกลุ่มเป็นห่วงการบริหารจัดการปิโตรเลียม ในส่วนการประมูลเราต้องเดินหน้าเปิดรับซองและพิจารณาทั้งในด้านคุณภาพ ด้านเทคนิค ระบบพีเอสซีจะเป็นอย่างไรขอให้ดูที่ผล ซึ่งกระบวนการประมูลเริ่มตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมาแล้ว ดังนั้นจึงมีการวิเคราะห์ข้อมูลมาแล้วพอสมควร สำหรับผู้ที่มีความเห็นต่างในเรื่องรูปแบบการเปิดประมูลให้เข้ามาหารือกันในทางวิชาการได้ที่กระทรวงพลังงาน ยินดีที่จะชี้แจงข้อมูลอย่างรอบด้าน”.