ทวงค่าเสียหายข้าวเสื่อม 127 สัญญา ขู่ไม่จ่าย ยึดแบงก์การันตี

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ทวงค่าเสียหายข้าวเสื่อม 127 สัญญา ขู่ไม่จ่าย ยึดแบงก์การันตี

Date Time: 30 ก.ค. 2561 19:43 น.

Video

เศรษฐกิจไทย เสี่ยงวิกฤติหนักแค่ไหน เมื่อต้องเปลี่ยนนายกฯ | Money Issue

Summary

  • อคส.ยื่นทวงถาม ให้คลังสินค้า-เซอร์เวเยอร์ ทำผิดสัญญาจำนำข้าว ปี 51-57 รวม 127 สัญญา ชำระค่าเสียหายใน 7 วัน ถ้าไม่จ่าย ยึดแบงก์การันตี ขณะที่คู่สัญญา ยันไม่ได้ทำข้าวเสื่อม จะไม่ขอจ่าย

Latest


อคส.ยื่นทวงถาม ให้คลังสินค้า-เซอร์เวเยอร์ ทำผิดสัญญาจำนำข้าว ปี 51-57 รวม 127 สัญญา ชำระค่าเสียหายใน 7 วัน ถ้าไม่จ่าย ยึดแบงก์การันตี ขณะที่คู่สัญญา ยันไม่ได้ทำข้าวเสื่อม จะไม่ขอจ่าย

มีรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ค. องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้ส่งหนังสือทวงถาม (notice) ไปยังคู่สัญญา ทั้งเจ้าของคลังสินค้าที่อคส.เช่าเพื่อฝากเก็บข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล และบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว (เซอร์เวเยอร์) ที่ทำผิดสัญญากับอคส. รวมทั้งหมด 127 สัญญา เพื่อให้คู่สัญญาทั้งหมดมาชำระค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับข้าวสารในสต๊อก เช่น ข้าวเสื่อม หรือคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน โดยมีกำหนดจะต้องมาชำระค่าเสียหายภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือทวงถาม

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ อคส.ได้ทยอยรับหนังสือจากคู่สัญญาดังกล่าว ซึ่งได้โต้แย้งว่า ไม่ได้ทำให้ข้าวเสีย หรือเสื่อมคุณภาพ เพราะมีการดูแลรักษาคุณภาพ และรมยาตามหลักวิชาการอย่างถูกต้อง ดังนั้น จึงจะไม่ชำระค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับ อคส.อย่างแน่นอน ส่งผลให้ อคส.จำเป็นต้องยึดหลักประกันสัญญา (แบงก์ การันตี) โดยจะทำหนังสือถึงธนาคารที่คู่สัญญาเหล่านี้นำเงินไปฝากไว้เป็นหลักประกันสัญญา เพื่อขอยึดหลักประกันสัญญา โดยธนาคารต้องนำเงินมาชำระหลักประกันสัญญาให้กับ อคส. ภายใน 15 วัน หากไม่ชำระภายในกำหนด อคส.จะส่งให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องร้องทั้งคู่สัญญา ที่ทำผิดสัญญา และธนาคาร ที่ทำผิดสัญญาค้ำประกัน

สำหรับทั้ง 127 สัญญานั้น เป็นส่วนหนึ่งจากทั้งหมด 244 สัญญา ที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล ตั้งแต่ปี 51/52, ปี 54/55, ปี 55/56 และปี 56/57 ที่คู่สัญญากระทำผิดสัญญา จนทำให้รัฐเสียหาย และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ อคส.เร่งรัดส่งอัยการฟ้องร้องดำเนินคดีทางแพ่งภายในสิ้นเดือน ธ.ค. 2561 ก่อนที่คดีจะขาดอายุความวันที่ 1 ม.ค. 2563 โดยทั้ง 127 สัญญา อคส.ได้ตรวจสอบความเสียหายเสร็จสิ้น และได้ยื่นหนังสือทวงถามไปแล้ว

ส่วนที่เหลืออีก 117 สัญญา อคส.จะสามารถตรวจสอบความเสียหาย และยื่นหนังสือทวงถามให้กับคู่สัญญาได้ภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้ หากคู่สัญญาไม่มาชำระค่าเสียหายตามกำหนด อคส. จะรวบรวมเอกสาร หลักฐาน สรุปข้อเท็จจริงเสนอให้พนักงานอัยการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไป คาดว่าทั้ง 244 สัญญา จะดำเนินการส่งฟ้องต่ออัยการให้เสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ทั้งนี้ อคส.ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการดังกล่าวให้ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ทราบทุก 15 วัน ตามข้อสั่งการของ รมว.พาณิชย์แล้ว

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา อคส.ได้ดำเนินการฟ้องร้องคู่สัญญา ที่เป็นคลังสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.อ่างทอง ที่ อคส.เช่าฝากเก็บข้าวสารในสต๊อก เพราะทำให้ทรัพย์สินของหลวงเสียหาย โดยทำให้ข้าวที่รัฐฝากเก็บมีคุณภาพเสื่อมไปจากมาตรฐาน จน กรมการค้าต่างประเทศ ต้องนำออกมาประมูลเป็นข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน เพราะสัญญาที่คลังทำกับ อคส.กำหนดว่า ต้องไม่ทำให้ข้าวเสื่อมไปจากวันที่รับฝากข้าว

สำหรับการฟ้องร้องครั้งนี้ เป็นการฟ้องแย้งหลังจากที่คลังสินค้ารายดังกล่าวได้ฟ้องร้อง อคส.ไปก่อนหน้านี้ในฐานความผิดที่ไม่จ่ายเงินค่าเช่าให้ ซึ่ง อคส.ได้ชี้แจงคลังสินค้ารายนี้ไปแล้วว่า ตามสัญญา คลังจะได้รับเงินจาก อคส. ต่อเมื่อ อคส.ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลแล้ว ที่ผ่านมา อคส.ได้รับงบประมาณไม่เพียงพอที่จะจัดสรรให้คู่สัญญาได้ ทำให้บางรายอาจยังไม่ได้รับคาเช่า อย่างไรก็ตาม คดีนี้ถือเป็นคดีแรกจากทั้งหมด 244 สัญญา ที่ อคส.ได้ฟ้องแย้ง และจะใช้รูปแบบนี้ต่อสู้คดีกับคู่สัญญารายอื่นๆ ต่อไป ขณะที่คดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรของรัฐบาล เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง หอมแดง เป็นต้น อคส.อยู่ระหว่างดำเนินการเช่นกัน.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์