นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน รับทราบความคืบหน้าโครงการเมืองการบินภาคตะวันออกมูลค่า 200,000 ล้านบาท ไปสู่การเป็น “มหานครการบินภาคตะวันออก” ภายใน 10 ปี โดยจะออกเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์) เดือน ต.ค.61 หลังจากที่ประกาศเชิญชวนการร่วมทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินไปแล้วเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีสั่งการให้ เร่งรัดการพัฒนาเมืองสนามบินภาคตะวันออก ที่สนามบินอู่ตะเภาโดยด่วน เพราะต้องเชื่อมโยงกับรถไฟความเร็วสูง และต้องเสร็จตรงเวลา โดยทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูง และสนามบิน จะเสร็จพร้อมกันปี 66
“ที่ประชุมได้มอบหมายให้ สกพอ.ร่วมกับกองทัพเรือ และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดลำดับความสำคัญของงาน และเร่งดำเนินการในระบบฟาสต์แทร็ก ให้โครงการเมืองการบินภาคตะวันออกแล้วเสร็จตามกำหนด รวมทั้งต้องวางแผนการขยายตัวของเมืองให้สอดคล้องกับอนาคต เพื่อไม่ให้เกิดความคับคั่ง และนายกฯย้ำให้รับฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่ด้วย เราอยากจะทำเมืองการบินภาคตะวันออกให้ได้มาตรฐานดีที่สุดของเอเชีย”
พล.ร.อ.โสภณ วัฒนมงคล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ กล่าวว่า ในส่วนของเมืองการบินภาคตะวันออกจำนวน 6,500 ไร่ กองทัพเรือได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาออกแบบ วางผัง ซึ่งในเบื้องต้นจะ มีรันเวย์ที่ 2, อาคารเทอร์มินัล 3, ศูนย์ฝึกอบรมการบิน, ศูนย์ขนส่งสินค้าทางอากาศ,พื้นที่ปลอดภาษี และบิสซิเนสเซ็นเตอร์ โดยมีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่ออาคารเทอร์มินัล 3 คาดว่าจะประกาศเชิญชวนนักลงทุนมาร่วมลงทุนได้ต้นเดือน ต.ค.61 คาดว่าจะได้บริษัทที่มาดำเนินการเดือน ม.ค.62 ส่วนโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (เอ็มอาร์โอ) ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับบริษัทแอร์บัสนั้น คาดว่าจะได้ทีโออาร์เดือน ก.ค.นี้ และได้เอกชนมาลงทุนเดือน ต.ค.61 นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่แอร์เอเชียเสนอมา และยังมีเอกชนจากสหรัฐฯ จีน ยุโรป ติดต่อขอรายละเอียดเข้ามาด้วย.