นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้ศึกษาผลกระทบของการปรับขึ้นราคาขายแก๊สหุงต้ม (แอลพีจี) ขนาดถัง 15 กิโลกรัม (กก.) จากถังละ 353 บาท เป็นถังละ 395 บาท หรือปรับขึ้นถังละ 42 บาท พบว่าส่งผลให้ต้นทุนอาหารปรุงสำเร็จ (จานด่วน) เพิ่มขึ้นจาน/ชามละ 15-20 สตางค์ จึงไม่มีเหตุผลที่ผู้ประกอบการอาหารจานด่วนจะปรับขึ้นราคาขาย เพราะกระทบต้นทุนการผลิตอาหารน้อยมากไม่ถึง 1 บาทด้วยซ้ำ
“จะจัดส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจไปตรวจสอบราคาอาหารจานด่วนในท้องตลาด โดยการที่ผู้ค้าจะปรับขึ้นราคาขายอีกจานละ 5 บาท ถือว่าไม่สมเหตุผลและเอาเปรียบ หากพบเห็นการขายเกินราคา แจ้งได้ที่สายด่วนโทร. 1569”
นอกจากนี้ ในสัปดาห์นี้จะเชิญผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค (ซัพพลายเออร์) มาหารือหลังการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลและผู้ประกอบการรถบรรทุกขนส่งได้ปรับขึ้นค่าขนส่งอีก 5% โดยจะขอความร่วมมือให้ซัพพลายเออร์ชะลอการปรับขึ้นราคาสินค้าไว้ก่อน “กรมได้ศึกษาการปรับขึ้นค่าขนส่งรถบรรทุกอีก 5% ที่จะมีผลกระทบต่อราคาสินค้าว่าการปรับขึ้นดังกล่าว จะกระทบต่อราคาขายปลีกสินค้าเพียง 0.0032-0.4853% ขณะที่หมวดอาหารและเครื่องดื่ม จะได้รับผลกระทบ 0.0178-0.2772% และราคาน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้นเป็นเพียงต้นทุนค่าขนส่งบางส่วนเท่านั้น เพราะรถบรรทุกส่วนใหญ่จะใช้ก๊าซเอ็นจีวี”
ด้านนายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีสินค้าที่แจ้งขอปรับราคาเข้ามายังสมาคม คือ ข้าวสารบรรจุถุง (5 กก.) โดยจะขอปรับขึ้นราคาถุงละ 20-30 บาท เพราะต้นทุนวัตถุดิบคือข้าวเปลือกราคาสูงขึ้น ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น สบู่เหลว ผงซักฟอก แชมพู ไม่ได้แจ้งขอปรับราคาเข้ามา แต่พบว่ามีการปรับลดขนาดสินค้าลง และจำหน่ายในราคาเท่าเดิม เพราะเศรษฐกิจยังไม่ดี กำลังซื้อไม่ฟื้น
นางอินทิรา โภคปุณยารักษ์ ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาขึ้นราคาขายปลีกข้าวสารหอมมะลิ บรรจุถุงตรา อคส. จากปัจจุบันที่ถุงละ 210 บาท โดยจะขึ้นไม่เกิน 10 บาท
ด้านนายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันปรับขึ้นค่าตั๋วสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) ก็คงต้องปรับ แต่โปรโมชันก็ยังคงต้องมี ซึ่งทางออกในตอนนี้ อาจพิจารณาทำโปรโมชันราคา แต่ไม่ถูกเหมือนเดิม หรือใช้วิธีลดที่นั่งโปรโมชันในแต่ละเที่ยวบิน ขณะที่นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวว่า สายการบินสามารปรับค่าตั๋วโดยไม่ต้องขออนุญาตมาที่ กพท. เนื่องจาก กพท.ได้ให้หลักการไว้ว่า หากน้ำมันขึ้นก็สามารถปรับขึ้นได้ แต่โดยรวมราคาบัตรโดยสารต้องไม่เกินกรอบเพดานกำหนด คือ 13 บาท/กิโลเมตร ทั้งนี้ เมื่อน้ำมันปรับลดก็ต้องลดราคาลงด้วย.