ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทยักษ์ใหญ่อันดับ โลกคือ บริษัท เจที อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ เจทีไอ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท เจแปน โทแบคโค รัฐวิสาหกิจของญี่ปุ่นได้สนใจที่จะร่วมลงทุนกับโรงงานยาสูบ ภายหลัง พ.ร.บ.การยาสูบแห่งประเทศไทย พ.ศ.2561 มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งเปิดโอกาสให้โรงงานยาสูบดำเนิน ธุรกิจอื่นนอกจากผลิตบุหรี่ได้ เช่น รับจ้างผลิตบุหรี่เพื่อจำหน่ายในต่างประเทศ หรือผลิตและจำหน่ายสินค้าอื่น ทั้งนี้ เจทีไอจะเจรจาขอร่วมทุนกับโรงงานยาสูบอย่างเป็นทางการ หลัง 10-15 ปีที่ผ่านมา ได้แสดงความสนใจที่จะมาร่วมทุน ด้วยตลอด โดยมองว่าโรงงานยาสูบเป็นพันธมิตรมากกว่าคู่แข่ง ที่สำคัญยังเป็นรัฐวิสาหกิจเหมือนกัน แต่เจแปน โทแบคโคได้แปรรูปและขยายธุรกิจใหม่ไปทั่วโลก เช่น ผลิตยา ทำธุรกิจเครื่องดื่มและสินค้าไบโอเทคโนโลยี
ด้านนางสาวดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ กล่าวว่า มีบริษัทต่างชาติหลายรายสนใจร่วมลงทุนกับโรงงาน ยาสูบเพื่อผลิตและจำหน่ายบุหรี่ไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน.