บาทแข็งฉุดค้าชายแดนไทยกับ 3 ประเทศหดตัว 'พาณิชย์' คาดไทยถูกแย่งส่วนแบ่งตลาด หลังเมียนมา กัมพูชา ลาว หนีนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคจากจีน เวียดนาม
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ค่าเงินบาทแข็งค่าจาก 35 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นปี 60 จนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้มูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทยกับ 3 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา เมียนมา และลาว ลดลงอย่างมาก
จากปกติมูลค่าการค้าชายแดนกับ 3 ประเทศจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับ 2 หลักขึ้นไป เพราะราคาสินค้าของไทยสูงกว่าคู่แข่ง ส่งผลให้ผู้นำเข้าสินค้าหันไปนำเข้าจากคู่แข่ง เช่น จีน และเวียดนามแทน
ทั้งนี้ ในเดือน ก.ย. 60 การค้าชายแดนระหว่างไทยและลาว เฉพาะการส่งออกมีมูลค่า 9,512 ล้านบาท ลดลง 4.17% เทียบกับเดือน ก.ย. 59 ส่วนไทยส่งออกผ่านชายแดนไปกัมพูชา 7,908 ล้านบาท ลดลง 0.14% และไทยส่งออกผ่านชายแดนไปเมียนมา 8,823 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.91%
อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ อยู่ระหว่างประเมินผลกระทบค่าเงินบาทที่มีต่อการค้าชายแดนของไทยว่า จะกระทบต่อสัดส่วนการค้าชายแดนในตลาดดังกล่าวอย่างไร เบื้องต้น ส่วนแบ่งตลาดการค้าไทยในกัมพูชาอยู่ที่ 28% ของการนำเข้าทั้งหมดของกัมพูชา
รองลงมา คือ จีน มีส่วนแบ่งตลาดในกัมพูชา 20% และเวียดนาม 16-18% คาดว่า ทั้งจีนและเวียดนาม จะมีส่วนแบ่งตลาดในกัมพูชาเพิ่มขึ้น จากการที่กัมพูชานำเข้าสินค้าทั้ง 2 ประเทศแทนสินค้าไทย ส่วนเป้าหมายการค้าชายแดน และผ่านแดนปี 60 อยู่ที่ 1.8 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ ช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ปี 60 มีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนรวม 971,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.68% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น การส่งออก 585,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.35% นำเข้า 385,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.06% ไทยได้ดุลการค้ารวม 200,000 ล้านบาท