นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ได้ขอให้กระทรวงฯเข้าไปปรับปรุงการอำนวยความสะดวก การให้บริการที่ท่าเรือกรุงเทพ ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เนื่องจากในปัจจุบันท่าเรือกรุงเทพ ให้บริการขนส่งขนถ่ายสินค้าเข้า-ออกท่าเรือ 1.5 ล้านทีอียูต่อปี ขณะที่ขีดความสามารถการให้บริการมีเพียง 1 ล้านทีอียูต่อปี จึงมีนโยบายว่า ให้ กทท.ปรับลดการใช้บริการท่าเรือกรุงเทพลง โดยให้เน้นรับส่งขนถ่ายสินค้าในประเทศ ส่วนการขนส่ง ขนถ่ายสินค้าเข้าออกระหว่างประเทศ ให้ไปใช้ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ล่าสุด ปริมาณการขนส่งสินค้าทางเรือของประเทศไทยติด 1 ใน 4 ของอาเซียน และ ติด 1 ใน 21 ของอันดับโลก
“กทท.ได้เตรียมงบ 7,500 ล้านบาท เพื่อใช้ปรับปรุงท่าเรือกรุงเทพให้มีความทันสมัยมากขึ้น ให้แล้วเสร็จในปี 2565 เพื่อให้ กทท.ขยับฐานสู่การเป็นท่าเรือระดับโลก และผู้ประกอบการขนส่งสินค้านำเข้าส่งออกทางเรือ ยังได้ขอให้ กระทรวงฯ เข้าไปดูแลไม่ให้ค่าบริการในท่าเรือมีราคาสูงกว่าปกติ ซึ่งยืนยันว่าจะไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มขึ้น ขณะที่การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในท่าเรือกรุงเทพ กทท.จะนำที่ดิน 281 ไร่มาลงทุนในระยะ 5 ปี มูลค่า 10,000 ล้านบาท และได้สั่งการให้ กทท.หาวิธีเพิ่มรายได้จากมูลค่าสินทรัพย์ ที่มีอยู่ 50,000 ล้านบาท โดยมีรายได้จากเชิงพาณิชย์เพียงปีละ 700 ล้านบาทให้เพิ่มเป็นปีละ 3,500 ล้านบาท”.