ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน ได้เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงคุณธรรมโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5 ส่วนที่ 2 และโครงการ LNG Receiving Terminal แห่งใหม่ที่จังหวัดระยอง ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) โดยมีนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน, นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ปตท. และนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.ร่วมในพิธี
โดยนายประมนต์กล่าวว่า ขณะนี้ในสายตานักลงทุนต่างชาติ ยังมองว่าปัญหาการคอร์รัปชันของไทยยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะหน่วยงานราชการที่เกี่ยวกับการอนุมัติออกใบอนุญาตต่างๆ ซึ่งยังคงต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้เร็วขึ้น “รัฐบาลชุดนี้ถือว่ามีความตั้งใจดี แต่ก็ยังทำไม่ได้เหมือนกับที่ผมอยากเห็น ซึ่งหลักๆมาจากระบบราชการที่มีลักษณะเป็นกลไกเดิมๆ มานาน ที่สุดแล้วอาจจำเป็นจะต้องปฏิรูประบบราชการ”
ทั้งนี้ องค์กรยังมีข้อจำกัดในเรื่องของกำลังคนที่เป็นผู้สังเกตการณ์ โดยปัจจุบันมีเพียง 250 คน แต่มีแผนจะเพิ่มเป็น 400 คน ซึ่งจะทำให้เกิดการตรวจสอบได้มากขึ้น และการเป็นผู้สังเกตการณ์ต้องผ่านการคัดเลือก โดยล่าสุดองค์กรได้ส่งคนเข้าไปสังเกตการณ์โครงการเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และโครงการรถไฟความเร็วสูง รวมทั้งรถไฟทางคู่แล้ว และกำลังดูอยู่ว่าจะขยายไปยังโครงการใดเพิ่มอีก
พล.อ.อนันตพรกล่าวว่า ภาครัฐพยายามที่จะผลักดันให้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ระดับ 1,000 ล้านบาท ทำข้อตกลงคุณธรรม เนื่องจากหากดำเนินการทุกโครงการคงเป็นไปได้ยากเพราะมีจำนวนมาก ขณะที่ผู้สังเกตการณ์เองก็คงจะไม่เพียงพอด้วย “โครงการลงทุนภาครัฐทั้งหมดรวมแล้ว 135,000 ล้านบาท เมื่อเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส เชื่อว่าเงินลงทุนจะลดลงต่ำกว่านี้มาก เพราะที่ผ่านมาหลายโครงการของรัฐลดลงไป 10 -20% เพราะไม่มีการจ่ายเงินใต้โต๊ะ”.