KTC เผย คนไทยใช้จ่ายผ่านบัตรเคทีซีในหมวดสุขภาพและความงามเพิ่มขึ้นถึง 12% จากปี 2566 คิดเป็นมูลค่า 25,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดโดยรวมเฉลี่ยอยู่ที่ 6% ชี้ คนไทยหันมาดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น เทรนด์การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Care) และธุรกิจ Wellness Center เติบโตสูง เทรนด์ “Prejuvenation” ชะลอวัยผิว รักษาความอ่อนเยาว์มาแรง นอกจากนี้ยังมีการใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์มากยิ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ พบนิยม ซื้อ-ผ่อนแพ็กเกจตรวจสุขภาพ, ฉีดวัคซีน HPV ผ่านแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลส
นางสาวสิรีรัตน์ คอวนิช ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต หมวดสุขภาพและความงาม “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2567 ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเคทีซีในหมวดสุขภาพและความงามเพิ่มขึ้นถึง 12% จากปี 2566 คิดเป็นมูลค่า 25,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดโดยรวมเฉลี่ยอยู่ที่ 6% หรือหากเทียบการเติบโตปี 2567 กับช่วงก่อนการเกิดโควิด-19 คือในปี 2561 มีจำนวนสมาชิกใช้จ่ายในหมวดนี้เติบโตถึง 75% ทั้งนี้มูลค่าการใช้จ่ายโดยรวมของตลาดสุขภาพความงามอยู่ที่ 70,000 ล้านบาท
“หลังช่วงเกิดโรคระบาดที่ไม่มีใครคาดคิด การมีสุขภาพแข็งแรงจึงเป็นเสมือนเกราะป้องกันเบื้องต้นที่อาจช่วยลดความรุนแรงจากหนักเป็นเบา อีกทั้งการเป็นสังคมผู้สูงวัย (Aging Society) ควบคู่กับการคงความงาม (Aesthetic Wellbeing) ทำให้คนไทยหันมาดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทรนด์การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Care) และเรื่องของความสวยงามดูดีด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีกลายเป็นภาคส่วนที่มีการเติบโตอย่างมากในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา”
สิรีรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า KTC ในฐานะผู้นำบัตรเครดิตในการทำตลาดสุขภาพและความงามมากกว่า 20 ปี เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งร่วมกับพันธมิตรด้านสุขภาพและความงามในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วทุกภาค ด้วยเครือข่ายพันธมิตรกลุ่มโรงพยาบาลกว่า 500 แห่ง และสถาบันความงามกว่า 4,700 แห่ง โดยกลยุทธ์ในปีนี้จะมุ่งให้บริการรูปแบบออนไลน์เพื่อให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ตอกย้ำจุดยืน “เคทีซีครบทุกเรื่องสุขภาพและความงาม”
นอกจากนี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคู่ค้าและสมาชิกบัตร เคทีซี ร่วมกับ 4 พันธมิตรสุขภาพความงามชั้นนำ ได้แก่ โรงพยาบาลพญาไท 1, 2 และ 3 รวมถึงโรงพยาบาลพญาไทพหลโยธินและโรงพยาบาลพญาไทนวมินทร์ พรเกษมคลินิก วีสแควร์ คลินิก และเอชดี มอลล์ (HDmall) ยังได้แชร์เทรนด์สุขภาพที่น่าสนใจ
เรืออากาศเอกหญิงแพทย์หญิงอัจฉราวดี มหัตนิรันดร์กุล แพทย์ประจำศูนย์พรีเมียร์ไลฟ์ โรงพยาบาลพญาไท 2 กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสัดส่วนของประชากรเป็นปัจจัย โดยมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงอายุและอัตราการเกิดที่ลดลง ส่งผลให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพเป็นไปในลักษณะของการป้องกันโรคมากกว่าการรักษา ผู้คนไม่อยากแก่และไม่อยากเจ็บป่วยแม้แต่ในกลุ่มผู้ป่วยเองก็เริ่มลดการใช้ยาและหันมาปรับวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
“สำหรับเทรนด์สุขภาพในปี 2568 ที่ได้รับความสนใจจากผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกัน ประกอบไปด้วย Personalized Medicine (Precision Medicine) การรักษาที่เน้นความเฉพาะบุคคล, Mental Health การดูแลสุขภาพจิตที่ได้รับความสำคัญเพิ่มขึ้น, Gut Health & Microbiome การดูแลลำไส้ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความสมดุลและส่งเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย, Sustainable & Ethical Wellness การดูแลสุขภาพแบบยั่งยืน และ Longevity & Biohacking การใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายเพื่อการมีอายุยืนยาวและสุขภาพดี
นางสาวรายา จันทรมังกร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด HDmall แพลตฟอร์มออนไลน์รวบรวมบริการจากโรงพยาบาลและคลินิกความงาม เปิดเผยว่า การศึกษาข้อมูลของกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการ HDmall 3 อันดับแรก นิยมซื้อแพ็กเกจตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีน HPV และตรวจคัดกรองมะเร็งในผู้หญิง ซึ่งไม่เพียงดูแลสุขภาพของตัวเองเท่านั้น แต่ยังซื้อแพ็กเกจเพื่อดูแลสุขภาพของคนในครอบครัวอีกด้วย
นายแพทย์ปกรณ์ กิติรัตน์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายแพทย์ (Chief Medical Officer) พรเกษมคลินิก กล่าวว่า กระแสการดูแลผิวตั้งแต่อายุน้อยกำลังเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเรื่องการรักษาสิวและดูแลสุขภาพผิว โดยปัจจุบันพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว จึงใช้บริการที่คลินิกบ่อยครั้งขึ้น เช่น ฉีดสิวทุกสองวัน ชอบหัตถการที่ใช้เวลาสั้นและเห็นผลไว ทั้งยังสอดคล้องกับเทรนด์ “Prejuvenation” ที่เน้นการป้องกันและชะลอวัยผิว เพื่อให้ผิวคงความอ่อนเยาว์ได้ยาวนาน
ด้านนางสาวปัญจรัตน์ วัฒนวงศ์วิบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อองค์กร วีสแควร์ คลินิก กล่าวว่า ธุรกิจความงามและสุขภาพยังมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลและผลสำรวจของหลายๆ แห่ง ในปีที่ผ่านมามีธุรกิจการให้บริการที่หลากหลายประเภทมากขึ้น แต่มีความเจาะจงเฉพาะบุคคลมากขึ้นด้วย เช่น ธุรกิจ Wellness Center ที่ให้บริการทั้งเรื่องการดูแลสุขภาพไปพร้อมกับความสวยความงาม มีการดีไซน์โปรแกรมโดยวิเคราะห์จากไลฟ์สไตล์ การตรวจร่างกายและผลตรวจเลือดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบันที่ต้องการการดูแลที่เหมาะสมกับตัวเองมากยิ่งขึ้น
"ทั้งนี้การร่วมมือกับพันธมิตรในการจัดกิจกรรมการตลาดตลอดปี 2568 ของเคทีซี คาดว่าจะช่วยให้การใช้จ่ายในหมวดสุขภาพและความงามเติบโตได้ 15% และจะขยายพันธมิตรร้านค้าในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 ร้านค้า" สิรีรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -