เจ้าของ Mixue ขึ้นแท่นเศรษฐีชานมจีน รวยแซงหน้ารุ่นใหญ่ Starbucks ขยายสาขาเยอะอันดับหนึ่งของโลก

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เจ้าของ Mixue ขึ้นแท่นเศรษฐีชานมจีน รวยแซงหน้ารุ่นใหญ่ Starbucks ขยายสาขาเยอะอันดับหนึ่งของโลก

Date Time: 28 ก.พ. 2568 17:05 น.

Video

"ROCTEC กับการเติบโตครั้งสำคัญ เมื่อ BTS เข้าถือหุ้น" | Money Issue

Summary

  • กลยุทธ์ แฟรนไชส์จีนครองโลก ดัน Mixue "มี่เฉวี่ย" ร้านชานมและไอศกรีม มีร้านค้าแซงหน้าร้านอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) อเมริกัน อย่าง McDonald's, KFC, Starbucks ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งโลก ด้วยจำนวน 45,300 แห่งในจีนแผ่นดินใหญ่และอีก 11 ประเทศ ก้าวสู่ ‘ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก’ เตรียมเสนอขายหุ้น IPO ครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงที่ถือเป็นการ IPO ครั้งใหญ่ที่สุดของฮ่องกงในปีนี้ ดันให้ผู้ก่อตั้งกลายเป็นมหาเศรษฐีหน้าใหม่จากจีนที่รวยจากธุรกิจชานม

Latest


Mixue ชานมและไอศกรีมสัญชาติจีน ก้าวสู่ ‘ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก’ ทั้งจำนวนสาขาในปี 2024 ที่มีมากกว่า 45,000 แห่ง รวมถึงการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงที่จะดันให้ผู้ก่อตั้งกลายเป็นมหาเศรษฐีหน้าใหม่จากจีนที่รวยจากธุรกิจชานม

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า การ IPO ครั้งนี้ถือเป็นการ IPO ครั้งใหญ่ที่สุดของฮ่องกงในปีนี้ มากไปกว่านั้นยังทำให้ Zhang Hongchao และน้องชาย Zhang Hongfu ผู้ก่อตั้งจากเมืองเจิ้งโจว มีทรัพย์สินรวมกัน 8.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 2.7 แสนล้านบาท ซึ่งร่ำรวยกว่า Howard D. Schultz อดีตซีอีโอ Starbucks ผู้มีบทบาทสำคัญในการขยายอาณาจักร Starbucks ไปทั่วโลก ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ราว 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย ตามข้อมูลของ Bloomberg Billionaires Index

ช่วงสองปีที่ผ่านมา Mixue หรือ มี่เฉวี่ย ร้านชานมและไอศกรีม ขึ้นแท่นเป็น ‘ร้านแฟรนไชส์จีน’ ที่มีสาขามากที่สุดอันดับห้าของโลกถัดจากแบรนด์ F&B อเมริกันอย่าง McDonald's, KFC, Subway, Starbucks จากจุดแข็งในการคุมห่วงโซ่และต้นทุนการผลิตได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้สามารถนำเสนอเมนูไอศกรีมและชานมที่มีราคาถูกกว่าเจ้าอื่นๆ ประมาณ 20% เพื่อดึงดูดการเข้าถึงจากลูกค้าทุกกลุ่ม อย่างไรก็ตาม Mixue ขยายเมนูที่ครอบคลุมกลุ่มเครื่องดื่มอย่างกว้างขวาง อาทิ น้ำมะนาว สมูทตี้ ชา ชาผสมผลไม้สด และกาแฟ

หลังจากขยายออกสู่ตลาดโลกอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา Mixue มีร้านค้ามากกว่าแบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกแซงหน้า McDonald's ที่มีจำนวน 42,800 แห่ง, Starbucks จำนวน 40,200 แห่ง และ KFC จำนวน 31,100 แห่ง รวมถึง Luckin Coffee แบรนด์กาแฟจากจีนที่เป็นคู่แข่งคนสำคัญของ Starbucks ที่มีจำนวน 21,300 แห่ง

ตามเอกสาร IPO ระบุว่า ปัจจุบัน Mixue มีร้านค้า 45,300 แห่งในจีนแผ่นดินใหญ่และอีก 11 ประเทศ โดยกลุ่มบริษัทมีแบรนด์หลักสองแบรนด์ ได้แก่ Mixue สำหรับเครื่องดื่มชาชงสดและ Lucky Cup สำหรับผลิตภัณฑ์กาแฟ ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1 ดอลลาร์ ซึ่งทำให้เป็นที่นิยมในมหาวิทยาลัย

นอกจากนี้ยังระบุเพิ่มเติมว่า โดย 99% ของร้านค้าทั้งหมดเป็นแฟรนไชส์ ซึ่งค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์คิดเป็นเพียง 2.4% ของรายได้รวมในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2024 โดยที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายสินค้าและอุปกรณ์ให้กับร้านค้าแฟรนไชส์ดังกล่าว ซึ่งจำเป็นต้องซื้อสินค้าเหล่านี้จาก Mixue โดยยังบอกอีกว่า รายได้ประมาณ 70% มาจากต่างประเทศ โดยมีตลาดหลักอยู่ที่อินโดนีเซียและเวียดนาม

ทั้งนี้ Mixue Bingcheng Co., Ltd. เตรียมเสนอขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงจำนวน 17.1 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 202.5 ดอลลาร์ฮ่องกง (26.04 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อหุ้น โดยคาดว่าจะเริ่มซื้อขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 มีนาคมที่จะถึงนี้ โดยตั้งเป้าระดมทุนที่ 444 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งลดลงมาจากเป้าระดมทุนที่เปิดเผยออกมาครั้งแรกที่ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีการประเมินมูลค่าของบริษัท Mixue จะมีมูลค่าถึง 9.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.3 แสนล้านบาท

การระดมทุนครั้งนี้คาดว่าบริษัทจะมุ่งขยายกำลังการผลิต การปรับปรุงระบบโลจิสติกส์ การตลาด และการพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงการเสริมขีดความสามารถด้านดิจิทัลเพื่อผลักดันการเติบโตทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่และต่างประเทศ

Mixue ระดมทุนครั้งแรกในปี 2564 รับเงินมูลค่ารวมกว่า 2 พันล้านหยวน (280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ด้วยมูลค่าธุรกิจที่ 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9.3 หมื่นล้านบาท ในขณะนั้น จากนักลงทุนนำโดย DragonBall Capital, Hillhouse Capital Group, กองทุน CITIC และผู้ให้บริการเดลิเวอรีเจ้าใหญ่ Meituan
ต่อเนื่องในปี 2565 Mixue ได้เข้าจดทะเบียนเพื่อเสนอขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น ด้วยเป้าระดมทุน 6.5 พันล้านหยวน (916 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และได้เริ่มขายธุรกิจผ่านแฟรนไชส์ ‘Mixue Ice Cream & Tea’ ตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา

อ่านเพิ่มเติม

อ้างอิงข้อมูล Reuters Bloomberg 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ