“ดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค” เตรียมเปิดอย่างเป็นทางการ ปี 2568 ฝ่า Mixed-use ครองเมือง ชูคอนโดฯสูง TOP 5

ไทยเป็น 1 ในประเทศที่ได้รับอิทธิพลจากเทรนด์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เกรด A มาสักระยะหนึ่งแล้ว ดังจะเห็นว่าขณะนี้ กรุงเทพฯ เต็มไปด้วยการแปลงโฉมที่ดินเก่าในทำเลยุทธศาสตร์ หรือย่านเศรษฐกิจสำคัญ ไปสู่โครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส (Mixed-Use) โปรเจกต์อสังหาฯ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อผสานโครงการที่อยู่อาศัยกับโครงการเพื่อพาณิชยกรรม เช่น อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า และโรงแรม อยู่ในพื้นที่เดียวกัน โดยวางธงแข่งกันสร้างชื่อเป็นโครงการระดับโลกในมิติต่างๆ

ซึ่งตามข้อมูลของ โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) หรือ JLL เผยว่า ปัจจุบันมีโครงการรูปแบบนี้มากกว่า 10 แห่ง นับล้านตารางเมตรทั่วกรุงเทพฯ

โดยโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค (Dusit Central Park) ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอสังหาฯ ร่วมทุนระหว่าง บมจ.ดุสิตธานี และบมจ.เซ็นทรัลพัฒนา มูลค่าโครงการรวม 46,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 23 ไร่ บริเวณหัวมุมถนนสีลม ตรงข้ามสวนลุมพินี ทำเลดีที่สุดใจกลางย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ

เป็นอีก 1 โครงการไฮไลต์ที่จะเข้ามาแข่งขันและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับตลาดอสังหาฯ รูปแบบมิกซ์ยูสของเมืองไทย ซึ่งหลังจาก 27 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้เปิดโรงแรมดุสิตธานี (Dusit Thani Bangkok) โฉมใหม่ จำนวน 257 ห้อง ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของโครงการ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว แขกคนไทยและคนต่างชาติไปแล้วนั้น

ดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค เปิดอย่างเป็นทางการ ปี 2568

ล่าสุดผู้บริหารเปิดเผยว่า ดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค เตรียมนับถอยหลัง ทยอยเปิดส่วนประกอบอื่นๆ อย่างเป็นทางการครบทั้งโปรเจกต์ ในช่วงปี 2568 ซึ่งประกอบไปด้วย

- อาคารที่พักอาศัย The Residences at Dusit Central Park (400 ยูนิต)
- ศูนย์การค้า Central Park Retail (130,000 ตร.ม.)
- อาคารสำนักงาน Central Park Offices (130,000 ตร.ม.)

รวมถึงอีก 1 ไฮไลต์ Roof Park สวนสาธารณะบนชั้นดาดฟ้าเป็นพื้นที่สีเขียวสาธารณะขนาดใหญ่ 7 ไร่ (11,200 ตารางเมตร) ซึ่งปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง

“ละเอียด โควาวิสารัช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมานสุริยา จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ Dusit Central Park ระบุว่า แม้ปัจจุบัน ตลาดอสังหาฯ ในรูปแบบมิกซ์ยูส จะอยู่ภายใต้ความท้าทายจากการแข่งขันของโปรเจกต์ต่างๆ แต่เราไม่ได้มองว่าเป็นปัญหา เนื่องจากโปรเจกต์ถูกออกแบบมาด้วยความแตกต่าง แต่ครบครัน และพิถีพิถัน ตอบสนองความต้องการหลากหลายของผู้คนที่เข้ามาใช้บริการ โดยที่ยังคงให้ความเป็นส่วนตัว ระดับพรีเมียม

อีกทั้ง “โครงการ Dusit Central Park” ตั้งอยู่บนทำเลที่เรียกว่า Super Core CBD ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สามารถเชื่อมต่อย่านธุรกิจและแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำของกรุงเทพฯ มากมาย กลายเป็น Luxury spot ที่มีการผสานกันอย่างลงตัว ทั้งภายในโครงการ อย่างโรงแรม ที่พักอาศัย ศูนย์การค้า และสำนักงาน ซึ่งแต่ละส่วนสามารถเดินเชื่อมถึงกันได้หมดแบบ Seamless และเชื่อมต่อภายนอกอาคารกับการสัญจรภายนอก แบบที่ไม่มีโครงการไหนมีเหมือน 

ขณะเดียวกัน เชื่อว่า ด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์ดุสิต ที่มีความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล ระดับโลก จะทำให้โปรเจกต์ได้รับการตอบรับและประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด

สำหรับมุมมองต่อภาคการท่องเที่ยว และตลาดอสังหาฯ ไทย ผู้บริหารโปรเจกต์ ตอบคำถามสื่อมวลชนว่า ยังเห็นเทรนด์การฟื้นตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ 100% หากเทียบกับช่วงพีก เมื่อปี 2562 ที่ไทยเคยมีนักท่องเที่ยวเกือบ 40 ล้านคน

เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวหลัก อย่างคนจีน ที่เป็นสัดส่วนของตลาดถึง 25% ยังกลับมาไม่ทั้งหมด จากปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ คนจีนรัดเข็มขัด และนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลจีนที่ให้ท่องเที่ยวในประเทศแทน ทำให้นักท่องเที่ยวจีนมาไทยไม่คึกคักเหมือนเก่า เช่นเดียวกับตลาดอสังหาฯ กลุ่มที่อยู่อาศัย ที่อยู่ภายใต้กำลังซื้อภายในประเทศหดตัว นักลงทุน ผู้ซื้อหลัก ชาวจีน ยังไม่กลับมา 100%

ทั้งนี้ คงเป็นจุดที่ภาคการท่องเที่ยวไทย และผู้ประกอบการอสังหาฯ ต้องมองหาโอกาส หรือตลาดใหม่ที่หลากหลายมากกว่าเดิม เช่น ตลาดอินเดีย ที่กลายมามีบทบาทมากขึ้น เป็นแรงขับเคลื่อนให้กับภาคท่องเที่ยวไทย และอสังหาฯ ไทย มาสักระยะหนึ่งแล้ว

ขณะเดียวกัน ประเทศไทย ควรเปลี่ยนมาให้ความสำคัญในเชิงคุณภาพนักท่องเที่ยว มากกว่าตั้งเป้าปริมาณรายปี เหมือนที่ผ่านๆ มา โดยอยากให้รัฐบาลหันไปกระตุ้น ผลักดันกลยุทธ์ ให้นักท่องเที่ยวอยู่ในประเทศนานขึ้น ใช้จ่ายมากขึ้นแทน คาดจะช่วยขับเคลื่อนรายได้ภาคการท่องเที่ยวไทยได้ดีขึ้น

สำหรับความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการ Dusit Central Park ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 โรงแรมจะมีการเปิดให้บริการเพิ่มเติม 4 ส่วน ได้แก่

• ห้องอาหาร Cannubi by Umberto Bombana ร้านอาหารอิตาเลียนรูปแบบไฟน์ไดนิ่งแห่งแรกของเชฟ Umberto Bombana เชฟระดับตำนานเจ้าของมิชลิน 3 ดาว
• Sky Lobby ชั้น 39 ที่มอบวิวทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ และสวนลุมพินี พร้อมบริการอันโดดเด่นและสง่างามโดยดุสิต
• Spire Rooftop Bar บาร์บนชั้นที่เปิดประสบการณ์ขอบฟ้ายามเย็นพร้อมชมวิวเมืองมุมสูงของกรุงเทพฯ
• 1970 Bar ที่ผสานเสน่ห์ของการสังสรรค์อย่างมีระดับเข้ากับบรรยากาศกลิ่นอายความหรูหราของยุค 70

ส่วนในปี 2568 อาคารสำนักงาน Central Park Offices และศูนย์การค้า Central Park Retail ภายใต้การพัฒนาของพาร์ทเนอร์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) โดย Central Park Offices จำนวน 43 ชั้น พื้นที่ใช้สอย (Gross Building Area: GBA) 130,000 ตารางเมตร นับเป็นอาคาร Prestigious Class A พร้อมเปิดอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาสที่ 3

คนไทยแห่ซื้อ คอนโดฯหรู The Residences at Dusit Central Park

ขณะหัวใจสำคัญ โครงการที่พักอาศัย The Residences at Dusit Central Park อาคารสูงลำดับที่ 5 ของเมืองไทย (มีความสูงจากฐานถึงยอดอาคาร 299 เมตร หรือ 69 ชั้น) ซึ่งมีกำหนดส่งมอบห้องชุดกับลูกค้า ในช่วงปี 2568 เช่นกันนั้น

ผู้บริหารเผยว่า ขณะนี้สามารถปิดยอดขายแล้วกว่า 85% ถือเป็นหนึ่งในโครงการ Branded Residences ที่มียอดขายสูงสุดก่อนโครงการจะสร้างแล้วเสร็จ โดย 80% เป็นผู้ซื้อชาวไทย และอีก 20% เป็นชาวต่างชาติ

โดย 15% ที่เหลือ ซึ่งมีทั้งไฮไลต์ห้องเพนต์เฮาส์ ขนาด 900 ตร.ม. และห้องตกแต่งพิเศษ ผ่านการออกแบบร่วมกับ ‘Arkitektura’ ผู้นำเข้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านระดับลักชัวรี และ ‘Euro Creations’ ผู้นำเข้าเฟอร์นิเจอร์สไตล์ยุโรปแบบร่วมสมัย โดยมีราคาขายเฉลี่ย 3.9 แสนบาทต่อตร.ม.นั้น คาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้เร็ว ๆ นี้ จากความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมานาน 75 ปี และอยู่ในตลาดซูเปอร์ลักชัวรีที่ยังมีเทรนด์เติบโตสูงในประเทศไทย โดยโครงการ Dusit Central Park จะเดินหน้าสู่การเป็น A World-class Complete Mixed-use Development อย่างสมบูรณ์แบบในช่วงปี 2568 อย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/business_marketing 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney