เจมส์ เรืองศักดิ์ นักธุรกิจที่ร้องเพลงได้นิดหน่อย พา เบบี้แอนด์มัม โตมาก 500 ล้าน

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เจมส์ เรืองศักดิ์ นักธุรกิจที่ร้องเพลงได้นิดหน่อย พา เบบี้แอนด์มัม โตมาก 500 ล้าน

Date Time: 9 ก.ย. 2567 09:35 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • เจมส์ เรืองศักดิ์ จับมือภรรยา ครูก้อย นัชชา ตั้งเป้าพา "เบบี้แอนด์มัม" ครองส่วนแบ่งตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงเตรียมตั้งครรภ์สำหรับผู้มีบุตรยาก ในปี 68 ที่ 80%

Latest


เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบบี้แอนด์มัม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลายคนอาจจะคุ้นกับบทบาทของผมในฐานะนักร้องในยุค 90 แต่หลายๆ คนอาจจะไม่คุ้นกับบทบาทการเป็นนักธุรกิจโดยเฉพาะยุคหลัง แต่ก็เชื่อว่าทุกคนน่าจะจำแฟรนไชส์ข้าวมันไก่ของผมได้ ที่ได้รับผลกระทบจากไข้หวัดนกระบาดในปี 2549 ทำให้ธุรกิจต้องปิดตัวลง

คนอาจจะมองภาพว่านักร้องนักแสดงในยุค 90 หลายคนอาจจะไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องการเงิน แต่เจมส์ บอกว่า ผมมาจากครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะมากมาย ตอนอายุ 14-15 ปี ช่วงเข้าวงการบันเทิง ผมเริ่มวางแผนทางการเงิน ด้วยโจทย์ที่ว่าจะทำเงินได้อย่างไร และจะเก็บเงิน ต่อยอดเงินอย่างไรให้อยู่กับเราไปนานๆ โชคดีอยู่อย่างหนึ่งที่ผมรู้ว่า สิ่งที่เราต้องมี คือ ความรู้ ผมเลยชอบศึกษาหาความรู้ ลองผิด ลองถูกในหลายๆ ธุรกิจจนมีวัคซีนเต็มไปหมด พอมาทำธุรกิจเบบี้แอนด์มัม เราเลยรอบคอบมากขึ้น

"เราเคยล้มลุกคลุกคลานมาเยอะมาก แต่เราล้มแล้ว เราก็ไปต่อ แม้จะเคยทำธุรกิจแล้วผิดพลาดเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเพราะปัจจัยแวดล้อม หรือเคยผิดพลาดด้วยตัวเอง ยกตัวอย่างเคยทำแฟรนไชส์ข้าวมันไก่ เรียกได้ว่า สถานการณ์กำลังมาดีเลย แต่พอไข้หวัดนกระบาด ซึ่งไม่ต่างอะไรกับโควิดตอนนี้เลย เงินที่เรามีในบัญชีทุกอย่างที่เราเก็บมาเกลี้ยงเลย แต่ถ้าวันนั้นเรานั่งคิดว่า โอ้ยฉันตายแน่ แล้วก็ไม่ยอมลุกคงจบไปแล้ว แต่เรากลับคิดว่า เฮ้ยอันนี้คือวัคซีนให้เราในธุรกิจต่อไป"

สำหรับที่มาของการทำเบบี้แอนด์มัม มาจากครูก้อย ภรรยาของผมมีปัญหาเรื่องการมีบุตรยาก ด้วยความที่เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์จึงค้นคว้าหาข้อมูลก็พบว่าการทานอาหารโดยเฉพาะโปรตีนนั้นสำคัญและส่งผลทำให้มีบุตรได้ง่ายขึ้น

เมื่อเราลงลึกเข้าไปในตลาดก็พบว่า ตลาดบำรุงเตรียมตั้งครรภ์มีโอกาสเติบโตอีกมาก เพราะค่าหมอทำเด็กหลอดแก้วราคาสูง ผู้ที่มีบุตรยากไม่อยากทั้งเสียเงิน และเสียใจ เสียเวลา จึงหันมาเตรียมตัวบำรุงร่างกายก่อนไปพบแพทย์

โดยหากประเมินภาพรวมตลาดโภชนาการและอาหารเสริมเตรียมตั้งครรภ์มีมูลค่าราว 300 ล้านบาท และมีแนวโน้มขยายขึ้นและคาดว่าจะโตได้อีก 10 ถึง 15% ต่อปี โดยปัจจุบันเบบี้แอนด์มัม ถือส่วนแบ่งตลาด 70% ที่ 204 ล้านบาท (อ้างอิงข้อมูลการยื่นงบการเงินปี 2566 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์) โดยแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงเตรียมตั้งครรภ์เป็น 4 กลุ่ม คือ

- หมวดหมู่โปรตีนเตรียมตั้งครรภ์ Ferty และ Ferta อยู่ที่ 60 ล้านบาท

- หมวดหมู่เครื่องดื่มสุขภาพเตรียมตั้งครรภ์ น้ำมะกรูดครูก้อย อยู่ที่ 57 ล้านบาท

- หมวดหมู่วิตามินเตรียมตั้งครรภ์ อยู่ที่ 55 ล้านบาท

- หมวดหมู่บำรุงเตรียมตั้งครรภ์ อื่นๆ 32 ล้านบาท

ทั้งนี้ธุรกิจของเบบี้แอนด์มัม นั้นทำการตลาดแบบ Word of mouth ด้วยการบอกต่อแบบปากต่อปาก จากหนึ่งคนที่นำความรู้จากครูก้อยไปปรับโภชนาการตามและสำเร็จ แล้วบอกต่อและแนะนำเพื่อน พี่ น้องที่มีบุตรยากมาติดตามความรู้ และแนวทางการปรับโภชนาการตามครูก้อยต่อกันไปเรื่อย ๆ

เรืองศักดิ์ บอกว่า วันนี้แฟนเพจ BabyAndMom.co.th มีกลุ่มผู้มีบุตรยากติดตามอย่างเหนียวแน่นกว่า 300,000 ราย โดยใช้งบพรีเซนเตอร์ศูนย์บาท เนื่องจากผู้บริโภคในตลาดนี้ ต้องการข้อมูลที่ลึกและถูกต้อง และมี Success story ของผู้มีบุตรยากจำนวนมากซึ่งเป็นเคสจริง ไม่มีการจ้าง และเป็นเคสคุณภาพไม่ว่าจะเป็นเคสยาก เคสไฮโปรไฟล์ต่างๆ เช่น หมอ อาจารย์ ดอกเตอร์ หรือเซเลบริตี้ ทั้งหมดเป็นเคสจริง ไม่ใช่เคสการตลาด จึงทำให้เบบี้แอนด์มัมมีการบริหารต้นทุนการตลาดที่ต่ำ

โดยผลักดันเบบี้แอนด์มัมเป็นผู้นำในตลาดและทิ้งระยะห่างจากผู้เล่นรายใหม่ๆ ในตลาด โดยผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 2 ปี 2567 มียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 5% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงเตรียมตั้งครรภ์ 80% ในปี 2568 และจะเป็นผู้นำในการขยายก้อนเค้กนี้ให้เพิ่มเป็น 500 ล้านบาท ตามลำดับ

ครูก้อย นัชชา ลอยชูศักดิ์ กรรมการบริหาร บริษัท เบบี้แอนด์มัม (ประเทศไทย) จำกัด และครูวิทยาศาสตร์ผู้ก่อตั้งเพจให้ความรู้เตรียมตั้งครรภ์สำหรับผู้มีบุตรยาก กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาเราจะเห็นคู่สมรสหลายคู่มีภาวะมีบุตรยากสูงขึ้น จากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ความเครียด ความเร่งรีบ โภชนาการ การพักผ่อนรวมถึงการแต่งงานที่ล่าช้าและเลือกที่จะมีบุตรเมื่อมีความพร้อม ซึ่งส่วนใหญ่มักพบในวัยที่มีอายุมากเกิน 35 ปี และเป็นช่วงวัยที่มีภาวะเจริญพันธุ์ถดถอย

ทั้งนี้ส่งผลทำให้ร่างกายเข้าภาวะมีบุตรยาก จึงทำให้คู่แต่งงานหลายๆ คู่ ที่มีความพร้อมที่จะมีบุตรหันมาให้ความสำคัญในการบำรุงเตรียมความพร้อมทางร่างกายก่อนมีบุตรทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายมากขึ้น และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง 10 – 15% ต่อปี ขณะเดียวกันตลาดผู้มีบุตรยากชาวต่างชาติจะโตมากขึ้นในไทย แม้เทคโนโลยีรักษาผู้มีบุตรยากทั่วโลกทันกันหมดก็จริง แต่หมอไทยบริการดีที่สุด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนให้ตลาดเตรียมตั้งครรภ์โตตามไปด้วย

โดยเบบี้แอนด์มัมถือเป็นผู้นำแหล่งความรู้เตรียมตั้งครรภ์สำหรับผู้มีบุตรยาก ซึ่งกลยุทธ์สำคัญของเบบี้แอนด์มัม คือ การทุ่มเทไปกับการค้นคว้าข้อมูลงานวิจัยด้านโภชนาการเสริมภาวะเจริญพันธุ์ มุ่งเน้นให้ความรู้ที่ถูกต้องในเรื่องการเจริญพันธุ์ และงานวิจัยที่ถูกต้องและทันสมัย คัดกรองและนำมาเผยแพร่ความรู้ให้กับผู้มีบุตรยาก โดยทีมนักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์

นอกจากนี้เบบี้แอนด์มัมพร้อมพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับภาวะมีบุตรยาก โดยเข้าร่วมงานสัมมนาทางวิชาการเกี่ยวกับภาวะเจริญพันธุ์ชั้นนำในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ไม่ว่าจะเป็น ประเทศออสเตรเลียและฮ่องกงอย่างต่อเนื่อง และนำความรู้มาเผยแพร่ให้กับผู้บุตรยากท่านอื่น ๆ ในเพจ พร้อมนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงเตรียมตั้งครรภ์ที่ตอบโจทย์ปัญหาด้านโภชนาการของผู้มีบุตรยากอีกด้วย

ส่วนสินค้าที่ได้รับความนิยมได้แก่ โปรตีนสำหรับเตรียมตั้งครรภ์เจ้าแรกในไทยมีทั้งสำหรับบำรุงหญิงและบำรุงชาย โดยมี 3 SKUs ได้แก่ โปรตีน เฟอร์ตี้ หรือ Ferty ที่มีหลากรสชาติ นอกจากนี้ยังมี เฟอร์ต้า หรือ Ferta โปรตีนผสมมัลติวิตามินสำหรับผู้ชายอีกด้วย

จากการทำรีเสิร์ชเก็บข้อมูล Data ของลูกค้า พบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ชื่นชอบทานโปรตีนเสริมอาหารที่มีรสชาติที่หลากหลาย และชื่นชอบรสชาไทยเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันยังเป็นรสชาติที่คนต่างชาติรู้จักและชื่นชอบอีกด้วย เราจึงได้คิดค้นและพัฒนา เฟอร์ตี้รสชาไทย ที่ทำการสกัดคาเฟอีนออก เพื่อให้ผู้หญิงเตรียมตั้งครรภ์ได้เพลิดเพลินกับการดื่มโปรตีนรสชาไทยที่ชื่นชอบโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของคาเฟอีนต่อการตั้งครรภ์อีกด้วย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์