บีวายดี (BYD) หนึ่งในบริษัทรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ระดับบิ๊กเบิ้มของจีน ทั้งยังถือเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ยังคงเดินหน้ารุกกระหึ่มตลาดรถเมืองไทย ล่าสุด เตรียมเปิดตัวนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ที่ติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งบีวายดีสุดภาคภูมิใจ นั่นคือ “DM-i” หรือเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดในแบบฉบับของบีวายดี ชาร์จไฟฟ้าครั้งหนึ่งวิ่งได้ระยะทางถึง 1,200 กม. โดยบีวายดีได้ฤกษ์จะเริ่มแนะนำตลาดบ้านเราตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค.นี้
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความรับรู้ถึงสมรรถนะอันเปี่ยมล้นของเทคโนโลยี DM-i กันอย่างจะจะ ทางบีวายดีพร้อมด้วยบริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถบีวายดีอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จึงได้นำคณะสื่อมวลชนไทยทุกแขนงจำนวนหนึ่งไปยังเมืองซีอาน ประเทศจีน หนึ่งในฐานผลิตใหญ่ของรถบีวายดี เพื่อเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่นี้ รวมทั้งนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ของบีวายดีที่จะมาพร้อมเทคโนโลยี DM-i นั่นคือ รถยนต์บีวายดี ซีไลออน 6 (BYD Sealion 6) ซึ่งได้ฤกษ์จะเปิดตัวในไทยวันที่ 8 ส.ค.นี้ โดยเป็นรถยนต์ประกอบในประเทศไทยอีกด้วย
นายเบนสัน เค่อ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีวายดีไทยแลนด์ จำกัด อันเป็นบริษัทลูกของบีวายดีแห่งประเทศจีน ได้กล่าวกับคณะสื่อมวลชนไทยที่ประเทศจีนว่า เป็นที่แน่นอนแล้วว่านับแต่นี้รถเอสยูวีของบีวายดี ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริด หรือ PHEV โดยใช้เทคโนโลยีในแบบฉบับของบีวายดี ซึ่งเรียกว่า “DM-i” จะเรียกชื่อรุ่นในตลาดต่างประเทศทั่วโลกให้ตรงกันว่า “บีวายดี ซีไลออน 6” (BYD Sealion 6) จากเดิมที่เรียกกันทั่วไป “บีวายดี ซีล ยู ดีเอ็ม-ไอ” (BYD SEAL U DM-i) โดยเราจะใช้ชื่อใหม่นี้เช่นเดียวกันในตลาดทั่วโลก ซึ่งรวมทั้งประเทศไทย ยกเว้นที่ประเทศจีนจะยังคงใช้ชื่อรุ่นว่า “บีวายดี ซ่งพลัส” (BYS SONG+)
“เรามั่นใจว่าการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่นี้พร้อมเทคโนโลยี DM-i ในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นรถยนต์ที่ประกอบในประเทศไทย จะได้รับการตอบรับที่ดียิ่ง เหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้าบีวายดีที่เปิดตัวในไทยมาแล้ว 3 รุ่น เพราะรถบีวายดี ซีไลออน 6 ซึ่งจัดอยู่ในเซ็กเมนต์ ซี-เอสยูวี จะมีราคาที่โดนใจผู้บริโภคชาวไทย และยังวิ่งได้ระยะทางที่ยาวไกลต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้งซึ่งแตกต่างจากรถปลั๊กอินไฮบริดทั่วไป ทั้งนี้แม้ว่าการมาทำตลาดในครั้งนี้ของบีวายดีจะเป็นผู้เล่นรายใหม่ในตลาดนี้ แต่ด้วยความโดดเด่นของเทคโนโลยี DM-i รวมไปถึงความประหยัดคุ้มค่า และราคาที่โดนใจ จะทำให้สามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างแน่นอน”
ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีวายดีไทยแลนด์ ย้ำว่ารถบีวายดี ซีไลออน 6 จะไปโลดในตลาดรถเมืองไทยแน่นอน เช่นเดียวกับที่ประสบความสำเร็จในประเทศจีน ซึ่งรถรุ่นนี้ได้มีการเปิดตัวในจีนมาแล้ว 3 ปี มียอดขายสะสมทะลุ 1 ล้านคัน ถือเป็นการยืนยันถึงความสำเร็จแห่งเทคโนโลยี DM-i ของบีวายดี โดยนอกจากจะทำตลาดในไทยแล้ว ขณะนี้เรายังได้เริ่มทำการตลาดรถรุ่นนี้ในอีกหลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์เชื่อว่าการเปิดตัวรถบีวายดี ซีไลออน 6 พร้อมเทคโนโลยี DM-i จะเป็นการปลุกตลาดรถปลั๊กอินไฮบริดในไทย และยังเป็นการเพิ่มแรงจูงใจของผู้ที่ยังลังเลว่าจะใช้รถยนต์ไฟฟ้าดีหรือไม่ อันจะทำให้ตลาดรถยนต์ในไทยเพิ่มสัดส่วนการใช้รถยนต์พลังงานใหม่มากขึ้น
สำหรับรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด หรือ PHEV ที่จีนนั้นได้รับการตอบรับที่ดียิ่ง โดยปีที่แล้วมียอดขายรวมกันกว่า 3.6 ล้านคัน ซึ่งรถปลั๊กอินไฮบริด 1 ใน 3 คันที่ขายได้ในจีนคือรถของบีวายดี โดยความนิยมในรถปลั๊กอินไฮบริดที่จีนสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทำให้หลายโรงงานของบีวายดีต้องปรับเปลี่ยนสายพานการผลิตจากรถยนต์ไฟฟ้ามาเป็นรถปลั๊กอินไฮบริดแบบฉับพลัน
ทั้งนี้ เพราะบีวายดีเป็นผู้คิดค้นเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดเจ้าแรกของตลาดรถยนต์ โดยนำเสนอเทคโนโลยี DM-i ที่ย่อมาจาก Dual Mode รวมกับคำว่า Intelligent ซึ่งหมายถึงระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดรูปแบบใหม่ที่มีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกัน แต่ต่างจากรถไฮบริดทั่วไปตรงที่แบตเตอรี่สำหรับขับเคลื่อนมีขนาดใหญ่กว่า และยังสามารถชาร์จไฟจากภายนอกเข้าไปที่แบตฯได้ด้วย
โดยรถปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของบีวายดี และเป็นรุ่นแรกของโลกคือ BYD F3DM ที่มาพร้อมเทคโนโลยี DM-i 1.0 เปิดตัวในปี 2008 ผลิตขึ้นที่โรงงานในเมืองซีอาน ประเทศจีน จากนั้นก็มีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องจนเป็น DM-i Super Hybrid 4.0 ที่เปิดตัวในปีนี้ ซึ่งเทคโนโลยีใหม่นี้จะใช้กับรถบีวายดีอีกหลายรุ่นตามมา รวมทั้งรถบีวายดี ซีไลออน 6 ที่จะเปิดตัวในไทย
สำหรับเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด DM-i Super Hybrid (4.0) มีจุดเด่นในเรื่องประสิทธิภาพของการรักษาความร้อนของเครื่องยนต์ได้ดีถึง 43.04% และรองรับการขับขี่ได้ไกลถึง 1,245 กม. รวมถึงแพลตฟอร์ม e4 Platform ที่มาพร้อมเทคโนโลยีมอเตอร์ควบคุมแรงบิดของแต่ละล้อโดยตรง ซึ่งช่วยมอบกำลังสูงสุด 1,100 แรงม้า
เทคโนโลยีนี้จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ที่มีอัตราคงประสิทธิภาพความร้อนอยู่ที่ 43.04% และมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง กำลัง 145 kW ช่วยส่งกำลังขับเคลื่อนมากกว่า 97.5% เรียกได้ว่าแทบไม่ได้ใช้กำลังจากเครื่องยนต์เลย ทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น นอกจากนี้ยังลดเสียงรบกวนลงได้ดีขึ้น 15% พร้อมด้วยแบตเตอรี่ Blade Battery ของ BYD ที่มีขนาดใหญ่ 18.3 kWh
สำหรับบีวายดี ซีไลออน 6 (BYD Sealion 6) ใช้ระบบขับเคลื่อน DM-i Super Hybrid 4.0 ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 18.3 kWh รองรับการขับขี่ในโหมดไฟฟ้าสูงสุด 95 กม. (รุ่น Superior หรือรุ่นท็อป ขับขี่ไฟฟ้าได้ 92 กม.) โดยมีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ประมาณ 4.72 ลิตร/100 กม.
ทั้งนี้ นอกจากการทำตลาดบีวายดี ซีไลออน 6 แล้ว ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ยังมีแผนจะเปิดตัวรถแบรนด์หรูอีกแบรนด์ นั่นคือ Denza โดยเป็นรถเอ็มพีวีไฟฟ้า อย่าง Denza D9 และยังมีรถเอสยูวีปลั๊ก-อินไฮบริดที่ใช้เทคโนโลยี DM-i อย่าง Denza N8 โดยช่วงนี้อยู่ระหว่างการแต่งตั้งดีลเลอร์แบรนด์ Denza
สำหรับแบรนด์ Yangwang (หยางว่าง) อีกแบรนด์หรูของบีวายดี ซึ่งมีรถเอสยูวีหรู คือ Yangwang U8 และซูเปอร์สปอร์ต Yangwang U9 โดยมีราคาที่สูงนั้น ก็มีแผนจะจำหน่ายในไทยเช่นกัน โดยอยู่ระหว่างการศึกษาตลาดและการสร้างภาพลักษณ์ เพราะขนาดที่จีนยังมีราคาสูง อย่าง Yangwang U8 ราคาประมาณ 5 ล้านบาท และ Yangwang U9 ราคาประมาณ 8 ล้านบาท.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่