"ศัลยกรรมเมืองไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก" คำนี้เห็นจะไม่เกินจริง เพราะปัจจุบันสวยด้วยแพทย์ ถือเป็นเทรนด์ความงามยุคใหม่ที่กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี ดันธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามของไทยปี 2566 มีมูลค่าตลาดราว 7 หมื่นล้านบาท ขยายตัวราว 2-3%
ด้วยเหตุนี้เอง ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง KPS โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ จึงได้จับมือกับ สมาคมแพทย์ศัลยกรรมความงามเกาหลี (KCCS) ผ่านการส่งเสริมความรู้และยกระดับมาตรฐานศัลยกรรมตกแต่งของไทยสู่ระดับสากล มุ่งเป้าพัฒนาศักยภาพแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นำเทคนิคใหม่ล่าสุดมาใช้ และยกระดับความปลอดภัยของการผ่าตัด พร้อมบุกตลาดประเทศจีน เวียดนาม ลาว กัมพูชา พม่า ตะวันออกกลาง และยุโรป
กันตพร หาญพาณิชย์ กรรมการบริหารและรองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า KPS มุ่งสู่ฮับศัลยกรรมความงาม แผนธุรกิจในปี 2567 ขยายสาขาและลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ โดยมีเป้ารายได้เติบโต 300% ในปี 67 และมีแผนขยายสาขาศูนย์ผิวพรรณและศัลยกรรมตกแต่งไปทั่วประเทศ เพิ่มอีก 5-8 สาขา ภายในปี 2570 พร้อมลงทุน 200 ล้านบาท ในเทคโนโลยีและอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย เพิ่มบริการใหม่ ครอบคลุมศัลยกรรมใบหน้า หน้าอก ลดน้ำหนัก เสริมความงาม และเทคโนโลยีดูแลผิวพรรณ
รวมทั้งมีแผนบุกตลาดต่างประเทศเต็มรูปแบบ มุ่งเจาะตลาดที่มีศักยภาพ เช่น จีน เวียดนาม ลาว กัมพูชา พม่า ตะวันออกกลาง และยุโรป ผ่านการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในต่างประเทศ เช่น โรงพยาบาล คลินิก ตัวแทนท่องเที่ยว เพื่อขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้า
ล่าสุดจึงได้เปิดศูนย์ KPS Kasemrad Plastic Surgery ศูนย์ผิวพรรณและศัลยกรรมความงาม ที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง ด้วยเงินลงทุน 50 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพใจกลางย่านการศึกษา มหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง ใกล้ศูนย์การค้าชั้นนำหลายแห่ง มีโครงการที่อยู่อาศัยระดับไฮเอ็นกระจายอยู่จำนวนมาก สะดวกต่อการเดินทาง ติดรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีแยกลำสาลี
และในปี 2569 จะสามารถเดินทางด้วยรถไฟ้ฟ้าสายสีส้ม สถานีสัมมากร สามารถเดินทางลงหน้าโรงพยาบาลได้ทันที และใกล้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เชื่อมต่อนักท่องเที่ยวโดยตรงจากสุวรรณภูมิ กลายเป็นจุดแข็งสำคัญที่สนับสนุนให้ศูนย์ผิวพรรณและศัลยกรรมของโรงพยาบาลฯ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติได้
ทั้งนี้ KPS ได้เปิดทำการแห่งแรกไปเมื่อปี 66 ที่ รพ.เกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์ ส่วนสาขาถัดไปจะเปิดที่ รพ.เกษมราษฎร์ สาขาบางแค ในช่วงปลายปี 67 และในอนาคตคาดว่า KPS จะอยู่ในทุกเครือของโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ทำให้ปัจจุบัน KPS มีสัดส่วนลูกค้าในประเทศ 75% ต่างประเทศ 25%
“ตลาดความงามไทยโต 2 ดิจิตมาโดยตลอด ซึ่งคนไทยเน้นทำศัลยกรรมเรื่องใบหน้าเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ตา 2 ชั้น, ทำจมูก, ปาก เนื่องจากส่วนใหญ่จะเน้นทำศัลยกรรม แต่เรื่องของผิวพรรณ โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ค่อนข้างน้อยเนื่องจากเข้าถึงคลินิกที่มีกระจายอยู่ทั่วได้มากกว่า รวมทั้งยังเห็นโอกาสที่น่าสนใจนั่นคือกลุ่มเวลธ์เนสที่สนใจเรื่องรูปร่าง การลดน้ำหนัก เพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การกลืนบอลลูน โดยส่วนใหญ่จะเป็นช่วงอายุ 40 ปีลงมา”
ทั้งนี้ ดร.คัง คยอง-จิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สมาคมแพทย์ศัลยกรรมความงามเกาหลี (KCCS ) หรือ Korean College of Cosmetic Surgery & Medicine ได้กล่าวเสริมว่า ในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ตลาดศัลยกรรมความงามในเกาหลีใต้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมีผู้เข้ารับบริการเติบโตสูงขึ้น ส่วน Top 5 ของชาวต่างชาติที่นิยมทำศัลยกรรมที่เกาหลี คือ จีน ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไต้หวัน ฮ่องกง และญี่ปุ่น โดยที่คนไทยเลือกทำศัลยกรรม จมูก หน้าอก และศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าเป็นหลัก
ด้วยเหตุนี้ทางสมาคมฯ จึงเล็งเห็นโอกาสในการร่วมมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางด้านศัลยกรรมความงามในภูมิภาคอาเซียน ทาง KCCS ตัดสินใจเลือก KPS เป็นพันธมิตรในไทย ด้วยเหตุผลสำคัญดังนี้ ประสบการณ์ยาวนาน นพ.สุเมธ บุญญเจตน์พงษ์ ผู้ก่อตั้ง KPS เป็นศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมความงามมากว่า 10 ปี
ศ.ดร.นพ. เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ เปิดเผยว่า การขยายศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง KPS โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ที่ร่วมมือกับสมาคมแพทย์ศัลยกรรมความงามเกาหลี (KCCS) จะทำให้มีรายได้จากศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง KPS เข้ามาที่ 200 ล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่ 70 ล้านบาท
ส่วนภาพรวมของ บริษัท บางกอกเชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่ารายได้จะสูงกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3/67 และไตรมาส 4/67 ที่เป็นช่วงฤดูฝน และเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนฤดู ทำให้จะมีจำนวนผู้ที่เข้ามารับการรักษาเป็นจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มลูกค้าจากต่างชาติที่เดินทางเข้ามารักษาเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้โรงพยาบาลมี 15 สาขา คาดว่าภายใน 5 ปี (2567-2572) จะมีครบ 20 แห่ง โดยตามแผนงานของบริษัทจะมีแผนลงทุนโรงพยาบาลเวิร์ลเมดิคัล พัทยา โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ระยอง และในกรุงเทพกรีฑาเพิ่มเติม อีกทั้งจะพิจารณาการลงทุนในลาวเพิ่มอีก 2 แห่ง เพื่อขยายธุรกิจโรงพยาบาลของบริษัท ซึ่งจะทำให้รายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง.
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney