รอบรั้วการตลาด : อองฟองต์ จับมือศิลปินระดับโลก ส่งคอลเลกชันพิเศษต้อนรับปีมังกร 2567

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

รอบรั้วการตลาด : อองฟองต์ จับมือศิลปินระดับโลก ส่งคอลเลกชันพิเศษต้อนรับปีมังกร 2567

Date Time: 10 ม.ค. 2567 17:15 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

Summary

  • รอบรั้วการตลาด เก็บตกข่าวจากแวดวงธุรกิจ การตลาด การเงิน ธนาคาร ประกัน และอสังหาริมทรัพย์ที่น่าสนใจ ที่ผู้อ่านไม่ควรพลาด

Latest


ชุติมา ประเสริฐศรี ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์อองฟองต์ บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ Enfant เป็นแบรนด์ที่มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์เพื่อความปลอดภัยของเด็ก ทำให้แบรนด์เป็นผู้เชี่ยวชาญในตลาดสินค้าพรีเมียมสำหรับเด็ก และสามารถครองใจคุณแม่จากรุ่นสู่รุ่นมาเป็นเวลายาวนาน ซึ่งอองฟองต์ เริ่มต้นจากผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าเด็ก สู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์แม่และเด็กที่หลากหลายและครบครัน ตอบโจทย์คุณแม่ยุคใหม่ในปัจจุบันนี้

และเพื่อเป็นการเอาใจลูกค้าอองฟองต์ได้จัดกิจกรรมรับปีมังกร ซึ่งเป็นปีนักษัตรที่เป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิ และเป็นนักษัตรที่มงคลที่สุดตามความเชื่อจีนอองฟองต์จึงออกคอลเลกชันสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มีชื่อว่า Festive Collection เพื่อร่วมเฉลิมฉลองปีมังกร 2567 อย่างยิ่งใหญ่ และตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดเสื้อผ้าเด็กพรีเมียมด้วยการจับมือกับศิลปินไทยชื่อเสียงดังไกลระดับโลกอย่าง ยูน ปัณพัท เตชเมธากุล ที่เคยฝากผลงานไว้กับหลายแบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็น Gucci หรือ Instagram

สำหรับ Enfant Festive Collection มงคลต้อนรับปีมังกรนี้ คุณยูนได้พัฒนาคอลเลกชันร่วมกับทีมอองฟองต์ รังสรรค์ลวดลาย และการใช้สีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคุณยูน ส่งมอบความพรีเมียมผ่านคัตติ้งที่พิถีพิถัน และนวัตกรรมเนื้อผ้าเฉพาะจากทางอองฟองต์ที่นุ่มสบายและระบายอากาศ เรียกได้ว่าเสื้อผ้าคอลเลกชันนี้ นอกจากจะสวยงามโดดเด่นแล้ว ยังคงไว้ซึ่งภาพลักษณ์ เสื้อผ้าคุณภาพพรีเมียม อันเป็นจุดเด่นของเสื้อผ้าเด็กจากแบรนด์อองฟองต์ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

ด้าน ยูน ปัณพัท กล่าวถึงคอลเลกชันนี้ว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับทีม Expert อย่างอองฟองต์ที่มีความเข้าใจในสรีระ และผิวอันบอบบางของเด็กไทย ซึ่งสิ่งนี้ในมุมมองของคุณยูน มองว่าเป็นจุดแข็งที่โดดเด่นมากๆ ของอองฟองต์ เพราะได้มาจากการสั่งสมประสบการณ์มายาวนาน จนมีความเข้าใจอย่างละเอียดลึกซึ้ง

ส่วนของการพัฒนาลายผ้าเพื่อให้เข้ากับคอนเซปต์มงคลต้อนรับปีมังกร ก็ได้มีการหยิบตัวอักษร อังคัง ซึ่งเป็นชื่อภาษาจีนของอองฟองต์ มีความหมายว่า แข็งแรง สุขภาพดี มาใช้เป็นแรงบันดาลใจ จนกลายมาเป็นลายภาพมังกรเด็กชื่อว่าอังคัง อยู่บนเสื้อผ้าในคอลเลกชันนี้

อีกสิ่งที่นับเป็นความพิเศษของคอลเลกชันนี้ที่ทาง อองฟองต์ ตั้งใจมอบให้เป็นของขวัญพิเศษสำหรับปีมงคล ก็คือ การมีเสื้อผ้าสำหรับผู้ใหญ่ เพื่อให้พ่อ แม่ ลูก ได้ใส่ร่วมกัน เสริมความมงคลทั้งครอบครัวซึ่งทาง อองฟองต์ ก็ได้ดึงครอบครัวอบอุ่นแห่งปีอย่าง ครอบครัวดีน มาร่วมถ่ายแฟชั่นเซตกันทั้งครอบครัวคือ คุณลีเดีย ศรันย์รัชต์, คุณแมทธิว และ น้องดีแลน เดมี ดีออน อีกด้วย

นอกจากนี้ อองฟองต์ ยังมอบโปรโมชันสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อเอาใจคุณพ่อคุณแม่นักช็อป เมื่อสะสมยอดครบทุกๆ 12,900 บาท ระหว่างวันที่ 1 ธ.ค. 66-29 ก.พ. 67 สามารถเลือกรับทองคำมงคล 3 ประการ (99.99%) เพื่อเสริมสิริมงคลเพิ่มอีกด้วย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรโมชันนี้ ได้ที่เคาน์เตอร์อองฟองต์ แผนกเด็ก ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เซ็นทรัล โรบินสัน และเดอะมอลล์ และทุกช่องทางออนไลน์ของอองฟองต์

วิศน สุนทราจารย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านกลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เป็นประธานในพิธีจับรางวัลแคมเปญ ดีเซลมีเฮ! เปย์จัดหนัก จาก พีทีที สเตชั่น ครั้งที่ 2 ณ ห้องประชุม The Synergy Hall ชั้น 6 อาคาร C ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์

ทั้งนี้ เพื่อมอบรางวัลแก่ผู้โชคดีที่สแกน QR Code ท้ายใบเสร็จน้ำมันลงทะเบียนลุ้นโชคจากการเติมน้ำมัน ดีเซล เกรดมาตรฐาน XTRA SAVE หรือเติมน้ำมัน ดีเซล เกรดพรีเมียม SUPER POWER DIESEL B7 ครบทุก 900 บาท/ใบเสร็จ และสมาชิกบลูการ์ดที่เติมน้ำมันตามเงื่อนไข ณ สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566-31 ธันวาคม 2566 โดยได้นำชิ้นส่วนในการจับรางวัลครั้งที่ 1 ที่ไม่ได้รับรางวัลมาร่วมจับรางวัลในครั้งที่ 2 ด้วย

สำหรับการจับรางวัลแคมเปญ ดีเซลมีเฮ! เปย์จัดหนัก ครั้งนี้ มีผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนกว่า 1,700,000 สิทธิ์ โดยจะประกาศรายชื่อผู้โชคดีในวันที่ 12 มกราคม 2567 เวลา 09:00 น. เป็นต้นไป ทาง https://pttstationluckydraw.pttor.com/Announce  และ www.pttor.com รวมทั้งทาง Facebook Page: PTT Station 

พิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้บริหารสูงสุด สายงานสินเชื่อบุคคล บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC กล่าวว่า เราได้เปิดตัวโครงการ เคลียร์หนี้ เป็นครั้งที่ 15 เพื่อตอบแทนความมีวินัยให้กับสมาชิกสินเชื่อบัตรกดเงินสด เคทีซี พราว ทุกประเภท ทั้งวีซ่า มาสเตอร์การ์ด และยูเนี่ยนเพย์ รวมทั้งบัตรกดเงินสด เคทีซี พี่เบิ้ม มอเตอร์ไซค์ เพื่อเป็นกำลังใจและแบ่งเบาภาระให้กับสมาชิกเคทีซีกว่า 700,000 ราย อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เพียงครั้งเดียว ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567-31 ธันวาคม 2567 สามารถรับสิทธิ์ร่วมลุ้นรางวัลได้ตลอดปี 2567 ถึง 600 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท รางวัลที่ 1 บัตรกำนัลส่วนลดค่าใช้จ่ายเพื่อเคลียร์หนี้ จำนวน 12 รางวัล (จับรางวัล 12 รอบ รอบละ 1 รางวัล) รางวัลที่ 2 บัตรกำนัลส่วนลดค่าใช้จ่ายเพื่อลดหนี้ จำนวน 588 รางวัล (จับรางวัล 12 รอบ รอบละ 49 รางวัล)

โดยสมาชิกบัตรกดเงินสดเคทีซี สามารถเข้าร่วมรับสิทธิ์ในโครงการเคลียร์หนี้ได้ โดยแบ่งสิทธิ์เป็น 2 ประเภทคือ สิทธิ์ใช้ดี : รับ 1 สิทธิ์ จากยอดการใช้วงเงินสินเชื่อฯ (รูด-โอน-กด-ผ่อน) ทุกๆ 2,000 บาท และคงค้างสินเชื่ออย่างน้อย 15 วันติดต่อกันทุกวันนับจากวันที่มียอดการใช้วงเงินสินเชื่อ (ไม่จำกัดจำนวนสิทธิ์) และสมาชิกฯ ชำระหนี้ไม่น้อยกว่ายอดเรียกเก็บขั้นต่ำและชำระภายในวันครบกำหนดชำระเงินในรอบนั้นๆ

สิทธิ์จ่ายดี: รับ 1 สิทธิ์ สำหรับสมาชิกฯ ที่ชำระหนี้ไม่น้อยกว่ายอดเรียกเก็บขั้นต่ำและชำระภายในวันครบกำหนดชำระเงินในรอบนั้นๆ และไม่เป็นสมาชิกฯ ที่ได้รับสิทธิ์ใช้ดี โดยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านเว็บไซต์ https://www.ktc.co.th/cleardebt2024  หรือช่องทาง SMS พิมพ์ OK67 เว้นวรรคตามด้วยหมายเลขบัตรกดเงินสดฯ 16 หลัก ส่งไปที่ 061-384-5000 หรือลงทะเบียนผ่านทาง KTC Touch หรือแอปพลิเคชัน KTC Mobile

ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมเกรดพรีเมียม แบรนด์ b-ex หรือ บีเอ็กซ์ จากประเทศญี่ปุ่น ในเครือ บมจ.โอซีซี แนะนำ Loretta Base Care Oil ออยล์บำรุงเส้นผมสูตรเข้มข้น เนื้อบางเบา อ่อนโยน ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทั้งยังมีกลิ่นหอมละมุนจาก Damask Rose, Lavender และ Geranium ช่วยบำรุงเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผมมีน้ำหนัก ไม่ชี้ฟู นุ่มสลวยเงางามอย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยลดปัญหาเส้นผมพันกัน ราคา 1,050 บาท จำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ช่องทางออนไลน์ Shopee, Lazada และ TikTok: OCC Beauty House Shop

พงษ์รัตน์ เหลืองธำรงเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิงห์ปาร์ค เชียงราย จำกัด กล่าวว่า จังหวัดน่านจะเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยอากาศและภูมิประเทศที่สวยงาม อีกสิ่งที่ถือเป็นของดีเมืองน่าน และมีความเป็นเอกลักษณ์คือ ชาน่าน หรือชาอัสสัมที่ปลูกที่นี้ ด้วยระดับความสูงและสภาพอากาศที่เหมาะสม ทำให้ได้ชาที่ให้กลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่นี้

โดยที่ผ่านมา ชาน่าน ยังไม่เป็นที่รู้จักและนิยมในกลุ่มนักดื่มชา สิงห์ปาร์ค ในฐานะผู้ผลิตชาคุณภาพของไทย จึงได้คัดสรรและพัฒนาตลอด 3 ปีที่ผ่านมาจนได้ชาน่าน Signature Blend ที่มีอัตลักษณ์ของชาน่านที่โดดเด่นมากว่าร้อยปีไว้อย่างครบถ้วน นำเสนอต่อผู้ที่ชื่นชอบรสชาติของชา ดึงรีสอร์ต ร้านกาแฟท้องถิ่นร่วมนำเสนอเมนูชา ต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน และยกระดับชาน่านที่มีคุณภาพมาตรฐานสากลออกสู่ตลาด ตอบสนองความต้องการลูกค้าเป้าหมายทุกกลุ่ม

นอกจากนี้ สิงห์ปาร์ค เชียงราย ยังมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมเกษตรกรให้เพาะปลูกชาน่าน ด้านการแบ่งปันองค์ความรู้ มีการรับซื้อผลผลิตโดยให้ประโยชน์สูงสุดแก่ชาวบ้าน ผู้เพาะปลูกชา สร้างแรงจูงใจให้เกิดการรักษาวิธีการเพาะปลูกแบบเดิม อย่างเป็นธรรมชาติ ในพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์ ภูมิประเทศที่เหมาะสม เพื่อคงอัตลักษณ์ของชาน่านหลายร้อยปี และได้ผลผลิตชาอัสสัมที่มีคุณภาพออกสู่ตลาด ตอบสนองความต้องการของลูกค้า

โดยในปีนี้ บริษัทเดินหน้าทำตลาดชาน่านอย่างต่อเนื่อง ผ่านแบรนด์ SINGHA PARK CHIANGRAI ในคอนเซปต์ New Origin, New Experience นำชาสายพันธุ์ดี มามอบประสบการณ์การดื่มชาน่านในมิติใหม่ให้กับลูกค้า พร้อมร่วมกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มรังสรรค์ชาน่านที่เราภูมิใจเป็นเมนูชาใหม่ๆ เสิร์ฟลูกค้า

เพื่อตอกย้ำภาพต้นกำเนิดแหล่งชาคุณภาพจากดินแดนแห่งสายหมอก ขุนเขาแห่งอารยธรรมชาในจังหวัดน่าน สำหรับ ชาน่าน Signature Blend มี 5 รสชาติ ได้แก่ ชาดำ ชาไต้หวัน ชาไทย ชาเขียว และชาเขียวนม ทั้งขนาด 100 กรัม และขนาด 500 กรัม

ทั้งนี้ กลยุทธ์การทำตลาดเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชาน่าน แบรนด์ได้ทำงานร่วมกับ เชอรี่ เข็มอัปสร สิริสุขะ นักแสดง นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผู้มีความผูกพันกับเมืองน่าน มาร่วมบอกเล่าเรื่องราวของต้นกำเนิดและจุดเด่นของชาน่านด้วยความภาคภูมิใจ

นอกจากนี้ จะมีการทำกิจกรรมต่อเนื่อง อาทิ การสร้างเมนูพิเศษจากผลิตภัณฑ์ชาน่าน เพื่อต่อยอดให้เห็นการครีเอตเมนูความอร่อยที่หลากหลาย รวมไปถึงแจกสูตรความอร่อยให้กับร้านอาหารและเครื่องดื่ม คาเฟ่ต่างๆ ได้นำไปพัฒนาเมนูเครื่องดื่ม ทั้งเครื่องดื่มร้อนและเครื่องดื่มเย็น

โดยหนึ่งในกิจกรรมไฮไลต์ คือ การจุดกระแสความร่วมมือกับรีสอร์ต คาเฟ่ ร้านเครื่องดื่มชา กาแฟ ทั่วจังหวัดน่าน ในการร่วมกันโปรโมตชาน่านให้นักท่องเที่ยวและนักชิมชาจากทั่วโลกได้เข้ามาสัมผัสการดื่มชา สายพันธุ์ชาอัสสัมที่เป็นเอกลักษณ์และมีคุณภาพสูงจากจังหวัดน่าน พร้อมเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและอาหารของจังหวัดน่าน ควบคู่ไปกับการออกสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่หลากหลาย เพื่อทำให้ชาน่านเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคทุกกลุ่มมากยิ่งขึ้น

ยกให้เป็นอีกหนึ่งเดสติเนชันความอร่อยใจกลางกรุง สำหรับ โคโค่ หรือ KOKO ร้านอาหารไทยเล็กๆ ระดับตำนาน ที่อยู่คู่สยามสแควร์มากว่า 27 ปี ตั้งแต่ปี 1996 ก่อนจะรีแบรนดิ้งครั้งใหญ่ ปรับโฉมสู่ โกโก้ (KOKO) เมื่อกลางปี 2023 โดย ก้อง-ก้องภพ เอื้อศิริทรัพย์ นักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง ที่ได้ต่อยอดความอร่อยครั้งใหม่

ทั้งนี้ ได้รังสรรค์เมนูใหม่กว่า 100 เมนู ด้วยวัตถุดิบพรีเมียม ทั้ง อาหารภาคกลาง อาหารอีสานรสแซ่บ อาหารใต้รสจัดจ้าน ถูกปากคนไทย และยังเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กยอดฮิตของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ต้องแวะมาเช็กอิน ลิ้มลองความอร่อย พร้อมปลุกกระแสอาหารไทย หนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้คนทั่วโลก

โดยก้องภพ กล่าวว่า ตอนนี้อัตราส่วนลูกค้าชาวไทยกับชาวต่างชาติของ KOKO อยู่ที่ 50% ทั้งฝรั่งและจีน โดยเฉพาะกลุ่มทัวร์ที่จะต้องมาแวะสยาม เราภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ได้ทำอาหารไทย ได้ส่งต่อความเป็นไทยให้คนไทยและชาวต่างชาติ เพราะอาหารไทยมีเสน่ห์ อร่อยและมีความหลากหลายมาก

"ตอนนี้มีลูกค้าชาวจีนกลับไปรีวิวและบอกต่อเยอะมาก จนบางวันต้องจองโต๊ะล่วงหน้า ด้วยรสชาติที่ถูกปากคนจีน ความโดดเด่นในรส เผ็ดเปรี้ยวเค็ม ความหอมละมุนที่มีการใช้กะทิเข้ามาช่วย และยังมีสมุนไพร อย่าง ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย"


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์